“ปลา” เป็นแหล่งอาหารประเภทโปรตีนชั้นดี และย่อยง่าย ปลาจึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย

แนะวิธีการเลือกซื้อปลาสด และมีคุณภาพดี แบบง่าย ๆ คือ

1. ดูที่ตา ตาจะต้องใสปิ๊ง ลูกตาออกนูน ๆ หน่อย
2. สองแก้มปิดสนิท ลองแอบเปิดแก้มดูเหงือกเป็นสีแดงใช้ได้ ถ้าเหงือกออกสีคล้ำ ๆ ไม่ผ่านการคัดเลือก
3. แตะผิวของปลาต้องมีลักษณะเป็นเมือกลื่น ๆ มือ
4. ปลาชนิดเกล็ด เกล็ดต้องเรียงติดกันแน่น ไม่หลุดเป็นแห่ง ๆ
5. เนื้อปลา ลองกดนิ้วลงบนตัวปลา ถ้าเนื้อปลาเด้งกลับก็ใช้ได้ แต่ถ้ากดแล้วเนื้อบุ๋ม เป็นรอยนิ้วไม่ควรคัดเลือก
6. ไม่มีกลิ่นตุ่ย ๆ โชยมา

วิธีดูว่า ปลาชนิดไหนมีไขมัน (ดี) สูงหรือต่ำ ให้สังเกตที่สีของเนื้อปลาเป็นหลัก

• ปลาเนื้อสีขาวมีไขมัน (ดี) น้อยหน่อย เช่น ปลาสำลี ปลากราย ปลากระพง ปลาจะละเม็ด เป็นต้น
• ปลาเนื้อสีออกเหลือง ส้ม เทา หรือชมพู มีไขมัน (ดี) สูง เช่น ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาแซลมอน ปลานกแก้ว เป็นต้น

ที่มา: ผกา เส็งพานิช. “ดูอย่างไรให้รู้ว่า ปลาสดซิง ๆ” ชีวจิต ปีที่ 15 ฉบับที่ 360 (1 ต.ค. 2556) น. 80.

มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอก สำหรับใครที่กำลังหาวิธีแก้ง่วงนอนในที่ทำงาน (ช่วงบ่าย ๆ )  โดยไม่ต้องการพึ่งการดื่มกาแฟ เพื่อให้วันทำงานของคุณดำเนินไปได้ด้วยดี มีรายละเอียดดังนี้

1. เดินไปเดินมา จากการศึกษา พบว่า การเดินเป็นเวลา 20 นาทีสามารถเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณให้สูงขึ้นได้และลดอาการอ่อนล้าให้หมดไป

2. ใช้หูให้มากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่า การฟังเพลงในขณะที่คุณทำงานอยู่นั้นจะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและช่วยเพิ่มสมาธิให้แก่คุณได้อีกด้วย

3. พักสายตาเสียบ้าง ถ้าหากว่าคุณไม่ละสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้างเลย ในที่สุด คุณก็อาจต้องประสบกับปัญหาปวดศีรษะ ล้าและแสบตาได้ประมาณทุก 20 นาที ให้คุณมองไปที่ภาพไกลๆ สัก 20-30 วินาที ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อตาของคุณได้ผ่อนคลายและไม่เกิดอาการล้าตา สำหรับการพักสายตาที่ดีที่สุด แนะนำให้คุณเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปด้านนอกไกลๆ ซึ่งแน่นอนว่าภาพวิวภายนอกจะทำให้คุณรู้สึกสบายตากว่ามองดูโต๊ะทำงานที่แสนรกของตัวคุณเองและของเพื่อนร่วมงานของคุณแน่ ๆ

4. ยืดเส้นยืดสาย การยืดเส้นยืดสายที่ดีนั้น  โดยคุณอาจค่อยๆ ยืดเส้นยืดสายที่อวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายที่ละส่วนก็ได้ เช่น คุณอาจยกไหล่ขึ้นลงเพื่อลดอาการไหล่แข็งเกร็ง ซึ่งทำได้โดยโดยให้คุณนั่งหรือยืน แล้วยกไหล่ขึ้นไปชิดกับใบหู จากนั้นให้คุณบิดไหล่ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ และค้างไว้เช่นนั้นเป็นเวลา 1-2 วินาที จากนั้นค่อยๆ ปล่อยไหล่ลงมาด้านล่างเพื่อให้ไหล่ได้ผ่อนคลาย และให้ทำเช่นนี้ซ้ำ 8 ครั้ง

5. เพิ่มพลังให้แก่ตัวเองด้วยการกินขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ การรับประทานอาหารในมื้อใหญ่สามารถทำให้คุณง่วงนอนได้ ดังนั้น ให้คุณลองรับประทานอาหารมื้อหลักในปริมาณอาหารที่น้อยลง และตลอดวันให้คุณรับประทานขนมคบเคี้ยวที่มีประโยชน์มากขึ้นเพื่อให้เกิดพลังงานในร่างกายอย่างเพียงพอ เช่น ถั่วลิสงทอด ผลไม้ หรือผักต่างๆ

6. เมื่อทุกอย่างใช้ไม่ได้ผล ให้คุณใช้น้ำเย็นในการแก้ง่วง คงไม่มีอะไรที่จะปลุกคุณให้ตื่นได้ดีไปกว่าการใช้น้ำเย็นล้างหน้า และดื่มน้ำเย็น การที่ร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลทำให้พลังงานในร่างกายของคุณเพิ่มขึ้นและทำให้สมองของคุณสามารถคิดสิ่งต่างๆ ได้อย่างแหลมคมอีกด้วย

ที่มา: “6 วิธีแก้ง่วงในที่ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งกาแฟ” สืบค้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2558, จาก www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772.

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ปกคลุมด้วยป่าไม้ 3 ชนิด คือ ป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขา แต่แม้ว่าอุทยานแห่งนี้จะมีป่าไม้ปกคลุมก็ตาม ในปัจจุบันไม่มีสัตว์ป่าขนาดใหญ่อาศัยอยู่ เพราะว่าปัจจุบันได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ ทำให้พบแต่นกบางชนิดเท่านั้น

สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีธรรมชาติที่งดงามทั้งทะเลหมอก น้ำตก ทุ่งดอกไม้ ธรณีวิทยาอันน่ามหัศจรรย์ที่ลานหินแตก ลานหินปุ่ม ผนวกเข้ากับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์การสู้รบอันยาวนาน เป็นวีรกรรมของนักรบไทยที่เกิดขึ้น ณ ที่นี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตได้ถูกบันทึกเก็บรักษาไว้

มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,614 เมตร สภาพภูมิอากาศของภูหินร่องกล้า มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะต่ำมากประมาณ 0-4 องศาเซลเซียส ฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบาย และในฤดูฝนมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส ทำให้ภูหินร่องกล้าแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติอื่นๆ  ดู แหล่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักบริเวณอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ได้ที่ http://www.thaiforestbooking.com/np_home.asp?npid=86&lg=1

ที่มา :

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. 2556. ท่องเที่ยวเกษตรทั่วถิ่นไทย (Thailand agro tourism). กรุงเทพฯ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. น. 25.

ข้าวกล้อง บางทีเรียกว่าข้าวแดง ข้าวซ้อมมือ หรือข้าวอนามัย เป็นข้าวที่มีสารเส้นใยมาก ทำให้อยู่ท้องและไม่ค่อยหิว ไม่ต้องกินจุกจิก เป็นการควบคุมน้ำหนักไปในตัว การกินข้าวกล้องจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ต้องการจะลดน้ำหนัก

อีกประการหนึ่ง ข้าวกล้องมีวิตามินบีพร้อมใช้ สามารถถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้มากกว่าการกินน้ำตาล น้ำหวาน หรือข้าวขาว กินข้าวกล้องนิดเดียวก็ได้พลังงานมาก แต่ไม่อ้วนอย่างการกินข้าวขาวนั่นเอง
ข้าวกล้องเป็นอาหารหลักของคนไทย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย ป้องกันโรค และป้องกันความแก่ ทำให้กระฉับกระเฉง อายุยืนยาว อยู่อย่างมีความสุขโดยไม่เจ็บป่วย เราจึงควรช่วยกันสนับสนุนให้คนไทยกินข้าวกล้องเป็นอาหารหลักแทนการกินข้าวขาว (ในน้ำหนักที่เท่ากันข้าวกล้องมีกากใยมากกว่าข้าวขาว 3 เท่า) คนไทยจะได้มีสุขภาพดี ไม่ต้องใช้จ่ายสูงเป็นค่าซ่อมแซมสุขภาพ

ที่มา :

บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล. “ข้าวกล้องดีต่อสุขภาพ” น. 66-74. ใน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. 2555. การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบบูรณาการ. พิมพ์ครั้งที่ 6. นนทบุรี : สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์.

กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คาดหมายลักษณะอากาศของประเทศไทย ในเดือนเมษายน 2558 จะมีลมใต้หรือลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนเกือบตลอดช่วง ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนเป็นระยะๆ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป กับจะมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในบางวัน โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนของทั้งภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 40 – 43 °ซ.    ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ภายใต้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แนะนำเทคนิคในทางอายุรวัฒน์ที่คนไทยเรารู้จักกันดีหลายวิธีมาฝาก มีทั้งเรื่องของกินดับร้อนและการใช้ชีวิตแบบเย็นสบายด้วยวิธีง่าย ๆ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทคนิคดับร้อนแบบไทย ด้วยภูมิปัญญาใกล้ตัว 

รายการอ้างอิง:

กรมอุตุนิยมวิทยา. “การคาดหมายลักษณะอากาศของประเทศไทยราย 3 เดือน เดือนเมษายนถึงมิถุนายน พ.ศ.2558 ออกประกาศ วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2558”  สืบค้นเมื่อ 20 เมษายน 2558 จาก http://www.tmd.go.th/3month_forecast.php