สัญลักษณ์ของเมืองหงสาวดี คือ รูปหงส์ตัวเมียขี่หลังหงส์ตัวผู้คู่กัน ส่วนเมืองไทยจะมีหงส์ตัวเดียวบนเสาไฟฟ้าแถวพุทธมณฑล แต่เมืองหงส์สาวดีจะมีหงส์คู่ตามเสาไฟฟ้าประดับรอบเมืองตามคำบอกเล่าของไกด์เพื่อรับเสียงฮา เมืองหงสาวดีอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองย่างกุ้งไป ๘๐ กม. ในอดีตเคยเป็นราชธานีของมอญ เมื่อพระเจ้าตะเบงชะเวตี้ยกทัพมาตีมอญได้ ทรงตั้งเมืองพะโคเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์ตองอู เมืองพะโคเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง จนถึงสมัยของพระเจ้านันทบุเรง ได้เสด็จหนีพระนเรศวรไปเมืองตองอู พวกยะไข่จึงบุกเข้ามาเผาทำลายเมืองหงสาวดีหลังจากนั้นพม่าก็ตั้งเมืองอังวะเป็นเมืองหลวงของพม่าก่อนที่จะเสียเอกราชให้อังกฤษ
พระราชวังบุเรงนอง พระที่นั่งสร้างขึ้นใหม่บนฐานเดิมในวังบุเรงนอง Bee Throne Hall หรือสถานบรรทมของพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักในเมืองหงสาวดี พื้นที่โล่งๆด้านขวามือผมเคยมีตำหนักพระสุพรรณกัลยา และพระองค์ดำ และมีสถานที่ซนไก่ตรงบริเวณพระธาตุมุเตาสถานที่ใกล้เคียง
พระพุทธรูปปางไสยาสน์ “ชเวสยอง” ยาว ๕๐ เมตร หรือพระนอนตาหวาน สร้างในช่วงปี ๒๔๕๐ ซึ่งจะอยู่ใกล้กับพระราชวังบุเรงนอง พระนอนองค์นี้งดงามมากบางคนเรียกว่า “พระพุทธรูปที่มีชีวิต” เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ พระยาดำรงราชานุภาพทรงเสร็จไปเยือนนมัสการ ท่านทรงกล่าวว่า “ฉันอยากจะชมว่า งามกว่าพระนอนใหญ่องค์อื่นๆ ที่เคยเห็นมา
เยเลพญาเจดีย์ ที่ตั้งอยู่ปากแม่น้ำอิรวดีกลางน้ำหรือแม่น้ำหงสากับแม่น้ำย่างกุ้งเช่นนี้มานับพันปี สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจเมื่อราวพันกว่าปีก่อน ผู้สร้างได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ คณะทัวร์ของเราก็มีแต่สาว ๒,๐๐๐ ปี เพราะไปกันเกือบ ๒๐๐ ชีวิต