หลังจากเสร็จสิ้นจากภารกิจจากการทำงานกันแล้ว เสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดเลยได้มีโอกาสไปทำบุญไหว้พระที่ ซึ่งตลาดน้ำวัดลำพญาเป็นตลาดน้ำที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ตำบลลำพญา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จะเปิดเฉพาะ วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ประมาณ 06.00-15.00 น.

การเดินทางก็ไม่ยาก เนื่องจากตลาดน้ำลำพญาอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 – 50 นาทีขึ้นอยู่กับประเภทของการเดินทางก็ถึงที่หมาย ดังนี้

รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ วิ่งออกไปทางบางใหญ่ ถ.สายตลิ่งชัน – สุพรรณบุรี  ผ่านสามแยกไทรน้อยเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.ปทุมธานี – บางเลน อีกประมาณ 10 กิโลเมตร

รถเมล์โดยสารประจำทาง สาย 124 / 515/ 84ก
วิ่งตรงมาถ.บรมราชชนนีถึงมหาลัยมหิดลเลี้ยวซ้าย ลงจากรถเมล์หน้าที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล เพื่อที่จะต่อรถสองแถวสายวัดมะเกลือ – ลำพญา  ซึ่งจะมีให้บริการทุกๆครึ่งชั่วโมง    ราคาค่ารถสาย 124  ราคา 9 บาทตลอดสาย ราคารถสองแถว  19 บาท ตลอดสายบริการถึงหน้าวัดลำพญา

รถตู้บริการ  สายพาต้า – บางเลน จอดให้บริการหน้าภัตตาคาร กุ้งหลวงสาขาปิ่นเกล้าได้ตั้งแต่ เวลา 6.30 – 19.00 น ให้บริการทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ราคา 40 บาทตลอดสาย

วันนี้จะพาทัวร์โดยรถสองแถวพาเที่ยวแบบชิลๆ กินลมชมบรรยากาศกันตลอดเส้นทางว่าระหว่างทางกว่าจะถึงวัดลำพญามีอะไรดีๆและสวยงามแบบชาวบ้านซึ่งระหว่างทางที่นั่งรถสองแถวมานั้น  จะผ่านทุ่งนา  สวนกล้วยไม้  ตลอดจนร้านต้นไม้ต่างๆ

ร้านที่ใครๆผ่านมาพลาดไม่ได้เลยจะต้องแวะเกือบทุกคน  คือ  แอร์ออร์คิดส์ ซุปเปอร์กล้วยไม้

ซึ่งเป็นซุปเปอร์กล้วยไม้แห่งแรกของประเทศไทย ซุปเปอร์กล้วยไม้แอร์ออร์คิดส์ มีกล้วยไม้หลากสายพันธ์ุให้สีสันสดใสเหมาะสำหรับคนรักต้นไม้ ไม่เฉพาะกล้วยไม้เท่านั้น ยังมีต้นไม้และพันธุ์ไม้นานาชนิดอีกมากมาย  เช่น ไม้มงคลต่างๆ ก็มีไว้ให้สำหรับคนรักต้นไม้จับจ่ายซื้อกลับบ้านกันตามความชอบใจ ในราคาที่ย่อมเยา  เริ่มต้นที่ราคา 10 บาท/ต้น  จนถึงราคาเป็น 1,000 บาทก็มี  แล้วแต่ความสวยงามและสายพันธุ์

 

ยังมีมุมพิเศษที่ทำให้ลูกค้าได้ดับกระหายคลายร้อนและประทับใจ คือ  มุมเครื่องดื่มฟรี  ซึ่งจะมีทั้งกาแฟ  โอวัลติน  ชา  น้ำเปล่าเย็นๆ   จะทานกี่อย่าง  หรือกี่รอบก็ได้  ทางร้านมีไว้ให้บริการอย่างไม่อั้นกันเลยทีเดียว
ทุกอย่างฟรี

สำหรับคอกาแฟ ที่ชอบทานกาแฟสด  ก็จะมีร้านกาแฟให้บริการด้านในอีกด้วย

เมื่อลูกค้าช้อปปิ้งต้นไม้กันจนหนำใจแล้ว  ก็จะต้องมาที่มุมสุดท้ายค่ะ คือมุมคิดเงินและแพ็คต้นไม้  เนื่องจากในการแพ็คต้นไม้แต่ละต้นต้องใช้เวลาและความประณีตในการแพ็คค่ะ จึงต้องมี ให้บริการหลายโต๊ะ เพื่อไม่ให้ลูกค้ารอคอยนาน

หลังจากเดินเที่ยวชมกล้วยไม้และดับร้อนกันด้วยเครื่องดื่มแล้วก็ได้เวลาเดินทางต่อด้วยรถสองแถวสายเดิมที่ผ่านมาไปตลาดน้ำวัดลำพญากันต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงหน้าวัด รถจะสุดสายที่นี้  ซึ่งจะผ่านบรรยากาศต่างๆ มากมายให้เราได้ชื่นชมกัน

 

ก่อนที่เราจะถึงที่ตั้งของตลาดริมน้ำเราไปไหว้หลวงพ่อมงคลมารานิมิต   ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน และดูประวัติความเป็นมาของตลาดน้ำวัดลำพญากันสักนิดเพื่อที่จะได้มีข้อมูลไว้แนะนำให้กับเพื่อนๆ ที่สนใจ ก่อนที่เราจะเข้าอุโบสถก็จะเห็นป้ายที่แสดงประวัติย่อๆ ของวัดลำพญาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา

วัดลำพญา ต้นกำเนิดตลาดน้ำที่ติดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนแห่งนี้เป็น
ศาสนสถานที่เก่าแก่อยู่คู่ชุมชนชาวลำพญามากว่า 100 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ. 2400 และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่อมงคลมาลานิมิตพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยศิลาแลงพอกปูนและปิดทองไว้อย่างสวยงาม เป็นที่สักการะบูชาของชาวตลาดน้ำวัดลำพญาและชาวบ้านในละแวกนั้นพร้อมทั้งผู้ที่มาจับจ่ายซื้อหาได้เข้ากราบไหว้สักการะบูชา

ถัดจากป้ายแสดงประวัติเดินเข้าไปด้านในก็จะเห็นอุโบสถอันสวยงาม

เข้ามาในอุโบสถเพื่อกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อมงคลมารานิมิต

ในสภาพของภูมิประเทศ มองจากสองฝั่งถนน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทำการเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ ปลูกผัก ผลไม้ เพื่อนำมาค้าขาย ชาวบ้านในแถบนี้ใช้ชีวิตกับสายน้ำท่าจีนมาช้านาน

เมื่อรู้ประวัติความเป็นมาและสภาพภูมิประเทศ ของตลาดน้ำวัดลำพญากันแบบคร่าวๆ แล้ว เราก็มาดูว่าที่ตลาดน้ำแห่งนี้มีอะไรให้เราได้สัมผัสท่องเที่ยวกันบ้าง

เริ่มจาก พิพิธภัณฑ์โบราณสถานที่จัดแสดงของเก่าไว้บนบ้านเรือนไทยหลังงามซึ่งมีของโบราณหลายสมัยมาให้ดู

หลังจากชมของโบราณกันจนเพลินตาแล้วเราก็ไปต่อกับการล่องแพกันดีกว่า

บริการเรือยนต์ลากแพล่องแม่น้ำท่าจีน
ซึ่งเรือแพนี้จะพาไปยังวัดสุขวัฒนารามเพื่อสักการะบูชา ค่าบริการเรือแพคนละ 50 บาท แบบเรือแจวคนละ 25บาท ในการล่องเรือจะผ่านสถานที่สวยงามมากมายจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน  เห็นโรงสีข้าวร้างเก่าแก่ที่มีสภาพที่ทรุดโทรมแต่เจ้าของก็ยังคงไว้ไม่รื้อถอนเพื่อที่ให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้แวะชมเพื่อนึกถึงวิถีชีวิตการสีข้าวแบบดั้งเดิม และที่น่าชมอีกที่หนึ่งก็คือเรือนแพหม่อมไฉไลที่มีความสวยงามและเป็นที่พักค้างคืนสำหรับผู้ที่อยากชมธรรมชาติกับสายน้ำในยามเช้า

เมื่อล่องเรือกันจนหิวแล้วคงต้องหาของกินกันสักหน่อยอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี้ ก็มีร้านเป็ดย่างลำพญา เป็ดพะโล้ลำพญาซึ่งใครมาก็ต้องแวะทานกันจนแน่นร้านมีทั้งข้าวและก๋วยเตียว  ถ้าใครไม่ได้ทาน  ถือว่ามาไม่ถึงตลาดน้ำลำพญา

ร้านเรือหมูสะเต๊ะก็มีลูกค้ายืนรอกันแถวยาว

                                 เรือร้านหมูสะเต๊ะ

ปลาช่อน/ปลานิลตัวโตๆย่างเกลือร้านนี้ก็ใช่ย่อยย่างไม่ทันกันเลย

และร้านค้าของฝากของขวัญอีกมากมาย  เช่น  เครื่องปั้นดินเผา  เครื่องหวาย  ของกินต่างๆ มากมาย

สุดท้าย  หลังจากช๊อป  ชิม  ชิลแล้ว ก็มาทำบุญกันด้วยการให้อาหารปลาที่ท่าน้ำของวัด  ซึ่งปลาเหล่านี้ได้มาอาศัยท่าน้ำหน้าวัดเป็นที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก

ก่อนที่จะเดินทางกลับกันจึงอยากเชิญชวนทุกท่านที่ยังไม่มีโปรแกรมในการเดินทางไปเที่ยวทำบุญที่ไหนในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาได้มา ช๊อป ชิม ชิล ที่ตลาดน้ำวัดลำพญา