กองทุนประกันสังคม คือ กองทุนที่ให้หลักประกันแก่ผู้ประกันตนให้ได้รับประโยชน์ทดแทนเมื่อต้องประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพลภาพ หรือตายซึ่งไม่ใช่เนื่องจากการทำงานรวมทั้งกรณีคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพและว่างงาน

การประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพและว่างงานเพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาลและมีรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยนายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่1 คนขึ้นไปต้องขึ้นทะเบียนนายจ้างพร้อมกับลูกจ้างภายใน 30วันและเมื่อมีการรับลูกจ้างใหม่ต้องขึ้นทะเบียนลูกจ้างใหม่ใน 30วันโดยสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับมีดังนี้

1.กรณีเจ็บป่วย

จะได้รับค่ารักษาพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ ในกรณีต้องหยุดพักตามคำสั่งแพทย์โดยได้รับค่าจ้างในวันลาป่วยครบตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานแล้ว ยังมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จากประกันสังคมอีก ร้อยละ50ของค่าจ้างแต่ไม่เกิน 90วันต่อครั้ง และไม่เกิน 180 วันต่อปี ในกรณีทันตกรรม มีสิทธิถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าตัดฟันคุด โดยผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 900บาท

2.คลอดบุตร ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยผู้ประกันตนหญิงสามารถคลอดบุตรที่โรงพยาบาลใดก็ได้โดยเบิกได้ที่สำนักงานประกันสังคมแบบเหมาจ่ายไม่เกิน 13,000 บาทและได้รับเงินสงเคราะห์หยุดงานในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน ผู้ประกันตนชายที่มีภริยาจดทะเบียนสมรสหรืออยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสสามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ โดยได้รับเฉพาะค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย จำนวน 13,000 บาท

3.ทุพลภาพ จะได้รับค่าทดแทนการขาดรายได้ ตามระดับความสูญเสีย เช่นกรณีทุพพลภาพระดับความสูญเสียรุนแรงจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในอัตราร้อยละ 50ของค่าจ้างรายวัน ตามมาตรา 57 ตลอดชีวิตรวมทั้งได้รับค่าบริการทางการแพทย์

4.เสียชีวิตจะได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท

5.สงเคราะห์บุตร จะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 400บาทต่อบุตร 1 คน สำหรับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายอายุไม่เกิน 6 ปี คราวละไม่เกิน 3 คน

6.ชราภาพ จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ(จ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต)โดยผู้ที่จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือนจะได้รับในอัตรร้อยละ 20ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายเป็นฐานในการคำนวณ และกรณีจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 1.5 หรือรับเงินบำเหน็จชราภาพ(จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว)

7.ว่างงาน

-กรณีถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินทดแทนระหว่างว่างงานร้อยละ 50ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน

-กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน จะด้รับเงินทดแทนระหว่างว่างงาน ร้อยละ 30ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 90 วัน

-กรณีไม่ได้ทำงานจากเหตุสุดวิสัยจะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงานร้อยละ 50ของค่าจ้างครั้งละไม่เกิน 180 วัน

ผู้ใดสนใจสิทธิต่างๆของกองทุนประกันสังคมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1506.