ทริปนี้ ผมพาไปเวียดนาม ครับ ประทับใจไม่แพ้เมืองอื่นๆ คราวนี้ ขอเล่าถึง ฮอยอัน และเมืองเว้ ไหลหล่อเลี้ยงเมืองเว้ อดีตราชธานีและเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกของเวียดนาม คณะทัวร์ Jog&Joy พาคณะนักวิ่งไทยทุกรุ่นรวมอายุ ๒,๐๐๐ ปี ล่องแม่น้ำหอมช่วงเวลา ๑๘.๐๐ น – ๒๑.๐๐ น ชมการแสดงดนตรีพื้นเมืองเวียดนามในเรือมังกรคู่ และชมสะพาน ๗ สี ขากลับร่วมกันลอยกระทงในแม่น้ำหอม
ร้านโคมไฟใน ฮอยอัน
พระราชวังเว้ (Purple Forbidden City) พระเจ้ายาลองทรงสร้างตามแบบพระราชวังต้องห้ามของจีน พระราชวังมี ๒ ชั้น มีกำแพงกั้นระหว่างเขตพระราชวังกับพระราชฐานชั้นใน กำแพงสีเหลืองล้อมรอบพระราชวังชั้นในรอบด้าน มีประตูทางเข้าพระราชวังหลายประตูเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมด้านประตูใหญ่ทำด้วยหินแกรนิตชื่อว่าประตูเที่ยงวัน ชั้นบนเป็นพระที่นั่งหงส์ทั้งห้า หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีเหลืองสดขลิบริมด้วยสีเขียว ประตูเที่ยงวันและพระที่นั่งหงส์ทั้งห้าได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานสถาปัตยกรรมชั้นยอดของราชวงศ์เหงียน
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Khai Dinh’s Royal Tomb) อยู่ห่างจากเมืองเว้ราว ๑๐ กม. ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ถือว่าเป็นชัยภูมิที่ดี สุสานสวยงามที่สุดของราชวงศ์เหงียนโดยมีษัตริย์ไคดิงห์ได้สร้างขึ้นขณะยังมีพระชนม์ชีพอยู่ โดยรีดงินภาษีจากประชาชนเพื่อมาสร้างสุสานทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนและสร้างความเกลียดชังกษัตริย์จิตรกรผู้หนึ่งใช้เท้าเขียนภาพประดับเพดานแทนการวาดด้วยมือ ภาพนี้มีชื่อว่า “มังกรในม่านเมฆ” เป็นจิตรกรรมที่โดดเด่นที่สุด หลังจากจักรพรรดิไคดิงห์สิ้นพระชนม์สุสานถูกทิ้งร้าง เพิ่งจะบูรณะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อเร็วๆ นี้