การมีธุรกิจเป็นของตัวเอง … อาจจะเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะอะไรนั้นคำตอบที่ตัวเองตอบได้ง่ายที่สุด คือ อิสระ … แต่การเริ่มต้นที่จะมีธุรกิจนี่สิ เป็นเรื่องยาก เพราะมันจะมีคำถามให้คิดมาก … ตั้งแต่ เราจะทำอะไรดี? ทำแล้วจะได้กำไรไหม? ถ้าขาดทุนจะทำไง?
คำถามพวกนี้ … คำตอบคือ “ความกล้า” เท่านั้น ถ้าคุณกล้าพอจะเสี่ยง การเริ่มต้นธุรกิจก็ไม่มีอะไรยากเลย เพราะเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงจากตัวเอง ที่ได้ทดลองทำมาแล้ว และหลายคนก็คงมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน
ธุรกิจที่ได้เริ่มต้นและอยากเล่าไว้เป็นประสบการณ์เพื่อแลกเปลี่ยนกับทุกๆ คน อาจจะเป็นธุรกิจเล็กๆ ของคู่หูสองคนที่สนิทกัน ชอบอะไรเหมือนกัน และที่สำคัญไม่มีใครห้ามใคร … ภัทรรัตนา วายุบุตร และ กนกวรรณ บัวงาม
หลังจากที่ได้ลงเรียนทำเบเกอร์รี่มาด้วยกันมาเกือบ 1 ปี ยังไม่ได้เคยลองวิชา พอเริ่มมีเงินทุนและสะสมอุปกรณ์ได้พอสมควรก็ตกลงกันว่ามาลองทำขนมขายกันดีไหม
พอตกลงกันได้ 2 คนก็ระดมไอเดียว่าจะทำอะไรกัน มองหาในเว็บต่างๆ โดยเฉพาะการศึกษาจาก pantip ที่แนะนำเรื่องทำขนมเค้ก ขนมอบแบบง่ายๆ จนสุดท้ายมาสรุปที่ “เค้กกล้วยหอม” เพราะเป็นเค้กที่ทานได้ง่าย ทำง่าย และส่วนประกอบไม่มีอะไรมาก … แถมใช้อุปกรณ์ที่พอมีอยู่ได้
จากนั้นก็ลงหุ้นกันด้วยเงินคนละ 1,300 บาท เพื่อซื้อส่วนประกอบต่างๆ ในการทำเค้กกล้วยหอม เริ่มแรกเราใช้สูตรของแม่สลิ่ม ใน pantip แล้วก็มาลองทำกันก่อน แต่ยังไม่ได้ขายจริงๆ
ผลของการทดลองทำครั้งแรกๆ “เค้กกล้วยหอม” เป็นเค้กที่แป้งแข็งมาก แต่รสชาติใช้ได้ดีทีเดียว ก็มาหาสาเหตุว่าทำไมแป้งมันถึงแข็ง จนค้นพบทางออกว่า สาเหตุที่ทำให้แป้งแข็ง คือ การอบที่สุกเกินไป เราต้องมาปรับการอบกันใหม่ โดยเฝ้าที่หน้าเตา ดูเวลาในการอบ และคอยเช็คการสุกของแป้ง เพราะเมื่อแป้งสุกแล้วต้องปรับลดอุณหภูมิของเตาลง จนเราได้เวลาและอุณหภูมิของการอบที่เหมาะสม … เค้กกล้วยหอม ที่จะเริ่มออกขายก็สมบูรณ์แบบ
หลังจากนั้น คู่หูสองคนก็มาคิดกันว่า จะตกแต่งเค้กกล้วยหอมให้น่ากินยังไง ควรแพ็คแบบไหน ตั้งราคาขายเท่าไรดี ส่วนที่จะวางขาย ได้ลองไปคุยไว้ก่อนเบื้องต้นแล้ว ซึ่งร้านส่วนใหญ่ต้องเห็นสินค้าและได้ชิมสินค้าก่อน การเริ่มต้นของเราเป็นไปได้ด้วยดี “เค้กกล้วยหอม” ร้านที่นำไปเสนอได้เห็นสินค้า และชิมแล้วก็สนใจนำไปวางขาย
จุดเด่น “เค้กกล้วยหอม” ของสองคู่หูที่ได้เริ่มต้นด้วยกัน คือ เป็นเค้กขนาดพอดีคำ แป้งนุ่ม หวานน้อย พร้อมแต่งหน้าด้วยอัลมอลด์สไลด์ ได้ความมันและความกรุบนิดๆ เวลาทาน ส่วนแพ็คเกจ เป็นแบบง่ายๆ ถุงจีบใสให้เห็นเค้กกำลังน่าทาน ติดแม็คและสก็อตเทปอีกชั้น เพราะหลังจากแกะแม็คแล้ว ก็สามารถใช้สก็อปเทปมาปิดปากถุงได้อีกครั้งถ้าทานไม่หมดถุง … เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพยายามใส่ใจกันสินค้าของเรา
ณ ตอนนี้ “เค้กกล้วยหอม” อาจจะยังไม่ได้ทำกำไรมากมาย แต่ก็สอนให้เราได้รู้จักวิธีการทำธุรกิจ สร้างความกล้าให้เราได้มั่นใจ และไม่เสียดายเลยที่ได้ลงมือทำเงินลงทุน 1,300 บาท มันคุ้มค่ากับการเรียนรู้ในครั้งนี้ และคงได้ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพราะเราคงต้องพัฒนา “เค้กกล้วยหอม” รวมถึงคิดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
… แต่สิ่งที่เสียดายที่สุดตอนนี้ คือ “เค้กกล้วยหอม” ยังไม่มีแบรนด์ … ถ้าใครอยากสนับสนุนออกแบบให้จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง