ย้อนอดีต ชมงานศิลป์ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

จากครั้งที่แล้ว เราได้ไปรู้จักอยุธยากันอย่างคร่าวๆ ที่ ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา วันนี้ผู้เขียนจะพาไปชมสมบัติอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จะมีความงดงามอย่างไรนั้นไปชมกันเลยค่ะ


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

IMG_1237

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 มีพระราชปรารภกับรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และอธิบดีกรมศิลปากรในสมัยนั้นว่า

“โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะนี้ สมควรจะได้มีพิพิธภัณฑสถานเก็บรักษา และตั้งแสดงให้ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้ หาควรนำไปเก็บรักษา และตั้งแสดง ณ ที่อื่นไม่”

กรมศิลปากรจึงได้สร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ขึ้นเพื่อเป็นที่รวบรวมสงวนรักษาโบราณศิลปวัตถุอันล้ำค่าดังกล่าว โดยใช้เงินที่ประชาชนบริจาค ชื่อพิพิธภัณฑ์ ถูกตั้งเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมเทิดพระเกียรติและเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ผู้ทรงสถาปนาวัดราชบูรณะ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2504

อาคาร 1 (อาคารเจ้าสามพระยา)

ชั้นบน จัดแสดงเครื่องทอง 2 ห้อง และโถงกลางจัดแสดงกลุ่มพระพิมพ์ที่ได้จากกรุวัดราชบูรณะ  ภายในห้องวัดมหาธาตุ จัดแสดงพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประกอบพุทธบูชา สัญลักษณ์มงคลต่างๆ รวมถึงพระพิมพ์ดุนทองและเงิน ส่วนห้องที่สอง ห้องวัดราชบูรณะ จัดแสดงพระพุทธรูป พระพิมพ์ทองคำ และเครื่องราชูปโภคทองคำ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญคือ พระแสงขรรค์ชัยศรี เครื่องราชกกุธภัณฑ์จำลอง (ถ้าใครได้ชมภาพยนตร์เรื่องสุริโยทัยหรือตำนานสมเด็จพระนเรศวร น่าจะคุ้นตานะคะ) พระปรางค์ทองคำ และเจดีย์ทองคำที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีในกรุชั้นที่ 3  ชั้นบนของอาคารไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ ถ้าได้เห็นของจริงรับรองว่าคุ้มค่ากับการเยี่ยมชมมากค่ะ เพราะสมบัติทุกชิ้นล้วนมีความประณีตงดงาม ซึ่งเป็นฝีมือของช่างสมัยกรุงศรีอยุธยาค่ะ

IMG_1254
บริเวณจัดแสดงชั้น 1

ชั้นล่าง จัดแสดงพระพุทธรูป โบราณศิลปวัตถุ ที่ค้นพบจากการขุดและบูรณะโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่าง พ.ศ. 2499-2501 ได้แก่ เศียรพระพุทธรูปสำริด จากวัดธรรมิกราช และกลุ่มพระพุทธรูปที่ได้จากกรุวัดราชบูรณะ ซึ่งล้วนแต่มีคุณค่าในแง่พุทธศิลป์ และเป็นหลักฐานพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ ทั้งศิลปะสมัยอยุธยา และสมัยสุโขทัย

  • นอกจากนี้บริเวณชั้นล่าง ยังมี ห้องจำหน่ายหนังสือ หนังสือส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม โบราณสถาน และเกี่ยวกับอยุธยา มีให้เลิอกทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจคือ คนขายหนังสือของที่นี่ เป็นมิตรและใจดีค่ะ ลุงคนขายแกบอกว่า อ่านหนังสือหมดแล้วทุกเล่ม ถ้าอยากถามข้อมูลอะไร หรือสนใจหนังสือเล่มไหนให้ถามแกได้เลย

IMG_1242IMG_1245

 

ระหว่างที่เดินชมชั้นล่างของอาคาร สังเกตเห็น QR code ติดไว้ที่งานจัดแสดงแต่ละชิ้น ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่า เป็น QR code ที่ต้องอ่านผ่านแอพพลิเคชั่น Musuems Pool ซึ่งพัฒนาโดย NECTEC  แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยในการนำชมพิพิธภัณฑ์โดยเมื่ออ่าน QR Code แล้วจะแสดงข้อมูลของชิ้นงานนั้นๆ อย่างละเอียดทั้งภาพและเสียงค่ะ

IMG_1249

11194387_10155542888395541_3026913008480219450_o
แอพพลิเคชั่น Museums Pool

เนื่องจากวันที่ไปเข้าชมนั้น พิพิธภัณฑ์ใกล้จะถึงเวลาปิดแล้ว จึงพลาดโอกาสเยี่ยมชมอีก 2 อาคารที่เหลือค่ะ อาคารที่ 2 จัดแสดงโบราณศิลปวัตถุตั้งแต่สมัยทวารวดี จนถึงสมัยอยุธยา เพื่อเป็นการศึกษาเปรียบเทียบศิลปะในแต่ละสมัยค่ะ ส่วนอาคารที่ 3 เป็นอาคารเรือนไทย จัดแสดงศิลปะพื้นบ้าน เครื่องใช่ในชีวิตประจำวันของคนไทยสมัยก่อน รวมถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยค่ะ

IMG_1307

                ถ้าใครมีโอกาสได้มาเที่ยวที่อยุธยา อย่าลืมแวะชมพิพิธิภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาได้นะคะ โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาท สำหรับคนไทย สำหรับชาวต่างประเทศคนละ 150 บาทค่ะ เปิดให้เข้าชมเวลา 9.00-16.00 น. วันพธ-วันอาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ ยกเว้น วันขึ้นปีใหม่และวันสงกรานต์ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา และอยู่ใกล้กับศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยาค่ะ  หรือติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 0-3524-1587