ถ้าดังก็ต้องดังซะให้เข็ด

จากหัวข้อสัมมนา “ดังซะให้เข็ด Digital Stand out” การสร้างแบรนด์โลกออนไลน์ดังข้ามคืน  ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2557 ณ ฮอลล์ 5 เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะฮอลล์ โดยมี 5 วิทยากรผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในธุรกิจและโลกออนไลน์ ทำให้เข้าใจว่า ความดัง มีประโยชน์  และถ้าจะดัง ก็ต้องดังซะให้เข็ดเพราะเมื่อเราดังแล้วจะมีคนหลายล้านคนได้ยิน

banner

หลายคนอ่านแล้วอาจทำให้เกิดคำถามที่ว่า แล้วทำยังไงถึงดัง ???  การสัมมนาในครั้งนี้ ได้ตอบข้อสงสัยวิธีสร้างความดังให้ได้เป็นอย่างดี  มิหนำซ้ำยังสอนเทคนิค กลเม็ดเด็ดๆ รวมถึงเคล็ดลับการใช้เครื่องมือออนไลน์ที่จะทำให้…ดัง!!! อย่างน่าสนใจ ซึ่งความดังในที่นี่อาจจะเป็นตัวเรา (Personal Brand)  แต่ถ้าในเชิงธุรกิจแล้วคือ  สร้างแบรนด์ (Branding) ให้เป็นที่รู้จักและจดจำของลูกค้านั่นเอง

ณัฐวีร์ ตันติสัจจธรรม  ที่ปรึกษาการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ให้กับ SME ทั่วประเทศไทย  ได้เปิดเผยถึงความสำคัญของการทำ Brand บนโลกออนไลน์ และเคล็ดการใช้เครื่องมือบนโลกออนไลน์เพื่อให้ Brand เป็นที่รู้จัก มีเนื้อหาถูกใจและเข้าถึงลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย

สิ่งแรกที่สำคัญ คือ การทำแบรนด์ให้เป็น “คน”   จะทำได้อย่างไร  … แค่ลองคิดและจิตนาการให้สินค้าหรือบริการที่เป็นนามธรรม มีเพศ มีอายุ มีอาชีพ มีงานอดิเรก มีความเชี่ยวชาญ และมีสิ่งที่ชอบทำ เพื่อสะท้อนถึงตัวสินค้าหรือบริการที่ต้องการจะสื่อให้กับลูกค้าได้เข้าใจ

เมื่อ Brand มีชีวิตแล้ว  สิ่งสำคัญต่อมา คือ สื่อสารแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยมีเคล็ดลับ  3E + 1P   ได้แก่
Educate   การให้ความรู้ในสิ่งที่เชี่ยวชาญ
Entertainment การให้ความบันเทิง
Empower  การสร้างแรงบันดาลใจ
Promotion  การสร้างสรรค์สิ่งพิเศษให้กับลูกค้า

สำหรับเครื่องมือออนไลน์ที่สามารถใช้ในการสื่อสารให้ตรงใจกับลูกค้า   สื่อออนไลน์หลักๆ ที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว คือ  facebook  Twitter  Instagram  และ  Youtube  เพียงแค่เลือกให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด  หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการเลือกเครื่องมือ ได้แก่ ประเภทธุรกิจ  ความซับซ้อน และกลุ่มเป้าหมาย

หากพูดถึงห้องสมุด ที่เป็นงานด้านการบริการ มีความซับซ้อนค่อนข้างมาก และกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เครื่องมือที่ควรใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า คือ facebook และ Youtube เป็นต้น

คุณวิสูตร แสงอรุณเลิศ  หรือ คุณบอย นักเขียน นักแต่งเพลง  และเจ้าของหน้า fanpage  boy’s though ได้มาแนะนำถึงเคล็ดลับเพื่อการทำ Personal Branding ในโลกออนไลน์  และพลังของแบรนด์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองอย่างมหาศาล  ด้วยพื้นฐานความคิดที่คุณบอยพยายามบอกกับทุกคนว่า คนธรรมดาสามารถทำอะไรที่ไม่ธรรมดาได้ ขอให้เราเชื่อและศรัทธาในตัวเอง โดยใช้ เคล็ดลับ  7 ขั้นตอนในการเข้าไปนั่งในใจผู้คน

  1. เชื่อในสิ่งที่พูด หรือ พูดในสิ่งที่เชื่อ ความเชื่อถือเป็นพื้นฐานที่จะชักจูงคนให้เชื่อเหมือนเราและศรัทธาเรามากขึ้น
  2. นักเล่าเรื่อง ปัจจุบันโลกขาดนักเล่าเรื่องที่ดี และการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีจะทำให้ตัวเรามีคุณค่ามากขึ้น
  3. หาคุณค่าให้เจอ  ในยุคของโลกฟุ่มเฟือย ยุคของมนุษย์สบาย สินค้าที่มีให้เลือกมากกมาย คุณค่าของสินค้าจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าเลือก
  4. มีเอกลักษณ์และสม่ำเสมอ  การถ่ายทอดเอกลักษณ์อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ลูกค้าจดจำเราได้ตลอดไป
  5. สร้างความสนิท  การสร้างความสนิทไม่ใช่แค่เพื่อนเท่านั้น แต่เราต้องสร้างความสนิทให้เหมือนเป็นแฟน เพราะการได้เป็นแฟนใครสักคนมันจะมีความพิเศษมากขึ้น พลังของความพิเศษนั้นมีมหาศาลยังไง ลองคิดถึงแฟนคลับดาราที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์น่าจะทำให้พอเดาได้
  6. ใช้เครื่องมือออนไลน์ให้เป็นประโยชน์  ได้แก่ facebook Twitter Instagram Youtube
  7. เป็นผู้ให้  การให้หรือเป็นผู้ให้ควรให้ด้วยความจริงใจ ไม่คิดถึงเรื่องเงินเป็นใหญ่  และการให้ที่ให้จนคนคิดถึงเรา

หากเราต้องการให้ห้องสมุดได้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของเด็กๆ นักศึกษา ด้วยบทบาทสำคัญของห้องสมุด คือ การเป็นผู้ให้ แต่เราคงต้องมาสร้างความสนิทกับนักศึกษาอย่างสม่ำเสมอ  และใช้เครื่องมือออนไลน์ให้มากขึ้น

ด้านนายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์  พิธีกรรายการทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นที่รู้จักในหลายเวที ได้มาแนะนำถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ โดยให้หลักคิดสำคัญว่า การจะดังในชั่วข้ามคืน เราไม่สามารถใช้สื่อๆ เดียวได้ แต่ควรใช้ควบคู่กันไป เพื่อการเข้าถึงผู้รับทราบสารอย่างทั่วถึง เพราะทุกวันนี้ แม้จะมีคนใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกแล้วถึง 2 พันล้านคนและจะมากถึง 3 พันล้านคนในปี 58 ที่จะถึงนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายพันล้านคนที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต

ในขณะที่ช่วง 2-3  ปีนี้เห็นได้ว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงช้าลง แต่การสร้างความประทับใจในโลกออนไลน์ยังเป็นสิ่งจำเป็น  ได้แก่  การช่วยเหลือในทันทีและสร้างความใส่ใจให้กับลูกค้ามากขึ้น เช่น การตอบข้อร้องเรียนหรือแก้ปัญหาให้กับลูกค้า  เพื่อเป้าหมายที่จะเปลี่ยนลูกค้าปีศาจ ให้เป็นลูกค้าที่เป็นพระเจ้า  สำหรับเทคโนโลยีในอนาคตที่น่าสนใจ ได้แก่ apple pay Smart watch  Ibeacon เป็นต้น ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นและจะมีผลต่อสินค้าและการบริการอย่างแน่นอน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :  http://www.superseminarasia.com/