ทุกๆ ท่านคงหนีไม่พ้นเรื่องการทำธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องมีการลงชื่อหรือเซ็นชื่อรับรองบนสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนเคยเห็นปัญหาที่มีการนำสำเนาบัตรประชาชนของผู้อื่นไปลงชื่อเพื่อเป็นผู้คำประกันโดยที่เจ้าของบัตรไม่ทราบ เนื่องจากถูกหยิบไปจากโต๊ะ มาทราบภายหลังต่อเมื่อ มีผู้มาฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน จึงได้มีการสืบสาวราวเรื่องกันขึ้น และอีกกรณีหนึ่ง ที่เราควรระวัง ก็คือ ไม่ควรทิ้งสำเนาบัตรประชาชน ที่ไม่ใช้แล้ว เช่น ถ่ายเอกสารผิด หรือ คิดว่าไม่ใช้แล้ว ทิ้งลงถังขยะ เพราะอาจจะมีผู้ไม่หวังดี นำไปใช้ประโยชน์เพื่อตัวเองได้ และอาจจะมีผลเสียมาถึงเจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงในภายหลังได้
กรณี การเซ็นชื่อรับรองสำเนาบัตรประชาชน สำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ให้คำแนะนำในการเซ็นชื่อรับรองสำเนา ให้ถูกต้อง ไว้ดังนี้
- ทุกครั้งหลังจากเซ็นชื่อและเขียนรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ต้องเขียนรายละเอียดกำกับไว้ด้วยว่าเอกสารฉบับนั้นใช้สำหรับทำอะไร เช่น “ใช้เฉพาะสมัครงานเท่านั้น” “ใช้สำหรับสมัครเรียนเท่านั้น” เป็นต้น
- นอกจากกำกับรายละเอียดการใช้แล้ว ยังต้องกำกับ วัน เดือน ปี โดยเขียนลงบนสำเนาที่ใช้ด้วย ซึ่งจะช่วยกำหนดอายุการใช้สำเนาได้
- ต้องเขียนข้อความทั้งหมดทับลงบนสำเนาส่วนที่เป็นบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านหรือสำเนาเอกสารอื่นๆ ที่สำคัญ ซึ่งเป็นวิธีเซ็นที่ถูกต้องในการรับรองสำเนาอย่างรัดกุม ไม่เปิดช่องทาง ให้กับมิจฉาชีพเอาไปสร้างหนี้ให้กับเรา
- ในกรณีที่เซ็นเอกสารต้องใช้ปากกาหมึกสีดำเท่านั้นถึงจะปลอดภัยที่สุด เพราะเครื่องถ่ายเอกสารบางเครื่องสามารถถ่ายเอกสารโดยดึงหมึกสีน้ำเงินออกเหลือใช้เฉพาะข้อความของบัตรประชาชนแล้วทำให้มิจฉาชีพเซ็นเอกสารบัตรประชาชนนั้นแทนได้ เพราะฉะนั้นเราควรเซ็นด้วยปากกาสีดำเท่านั้น เพราะไม่สามารถดึงหมึกสีดำออกได้หรือถ้าดึงสีดำออกได้ข้อความก็จะหายไปหมดเลยทั้งหน้าบัตรประชาชน
รายการอ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค. เซ็นชื่อรับรองสำเนาอย่างไร…ให้ถูกต้อง. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2558 จาก http://www.ocpb.go.th/ewt_news.php?nid=589&filename=index