ในวันหยุดที่ผ่านมา ผู้เขียนได้พาแม่ออกเดินทางจากบ้านที่กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่แถวตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 58 โดยมีคุณสามีเป็นผู้ขับรถให้ เดินทางมาที่อ.ดอนตูม จ. นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านหลังที่สองของผู้เขียนปลูกอยู่กลางทุ่งนา ตอนนี้เริ่มปรับพื้นที่ให้เป็นสวนเพื่อปลูกไม้ผลไว้รับประทาน เป็นบรรยากาศธรรมชาติ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่กินได้ และกินไม่ได้ พาแม่มาเดินออกกำลังกาย มาพักผ่อนและมาสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ดูธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จะได้ยินเสียงนกร้องในตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนฝนตกก็จะได้ยินเสียงกบ เขียด ร้องกันเสียงดังระงมไปหมด ในเช้าวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา
ก็พาแม่ไปทำบุญ ตักบาตร ถวายผ้าอาบน้ำฝน ถวายสังฆทาน หล่อเทียนเข้าพรรษา และได้ฟังเทศน์จากท่านเจ้าอาวาส ที่วัดหนองปลาไหล แม่บอกว่าชอบมาทำบุญที่วัดต่างจังหวัดดูคนเยอะดี ทำให้แม่นึกถึงบ้านที่เคยอยู่กับตายายในอดีตที่อยู่ต่างจังหวัดเหมือนกัน พาแม่มาอยู่บ้านนครปฐมต่อจนถึงวันที่ 1 ส.ค. ตอนบ่ายๆ ก็เดินทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ ระหว่างนั่งรถกลับผู้เขียนถามแม่ว่าโกรธไหมที่ไม่ได้พาไปเที่ยวไกลๆ เหมือนครอบครัวอื่น แม่ตอบว่าไม่จำเป็นหรอกต้องไปให้ไกล สิ้นเปลืองเงินทอง พาแม่ไปทำบุญ พาแม่พักผ่อน มาเดินเล่นในที่ของลูกและครอบครัวที่สร้างเพิ่มขึ้นมาได้ มันทำให้แม่ภูมิใจในตัวของลูก และสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งเหล่านี้ทำให้แม่มีความสุขมากๆที่เห็นความเจริญของลูกแม่และครอบครัว ผู้เขียนได้ฟังคำตอบจากแม่ทำให้ภูมิใจในตัวเองและที่ยิ่งใหญ่ทีสุด คือ ทำให้แม่มีความสุข