กินทุเรียนอย่างไรไม่ให้อ้วน ?

Durian-3

มากันอีกแล้วสำหรับหน้าร้อนนี้ นอกจากอากาศที่ร้อนแล้ว ก็ยังมีผลไม้ต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาให้ผู้บริโภคอย่างเราได้เลือกสรร  หนึ่งใน
นัั้นก็คือราชาผลไม้ไทย นั่นก็คือทุเรียน นั่นเองค่ะ เนื่องด้วยรสชาดที่หอมหวาน อร่อยถูกปากใครหลายคน จึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย

หากจะกล่าวถึงทุเรียนแล้ว ทุกคนก็อาจจะทราบดีว่านอกจากความหอมหวาน อร่อยล้ำแล้ว มันยังมีพลังงานที่สูงอีกด้วย ก็เลยไปสืบเสาะหาวิธีการกินทุเรียนให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายในแง่โภชนาการมาให้ทราบกันค่ะ โดยครั้งนี้มีคำแนะนำดี ๆ จาก อ. สง่า ดามาพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับการกินทุเรียนดังนี้

“ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อคนเรามากมาย กินทุเรียน 2 เม็ด ขนาดกลาง น้ำหนักเฉพาะเนื้อประมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานสูงถึง 187 กิโลแคลอรี ให้ไขมัน 4.1 กรัม โปรตีน 2.5 กรัม และให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ ดังนั้นหากกินทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสม และไม่บ่อยจนเกินไป ก็จะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้

จึงได้แนะนำให้คนไทยกินทุเรียนเพื่อสุขภาพ โดยกินครั้งหนึ่งไม่ควรเกิน 2 เม็ด ขนาดกลาง ก็จะได้รับพลังงานและสารอาหารที่พอเหมาะตามที่กล่าวมานั้น  แต่หากกินครั้งละ 2-3 พู เท่ากับ 4-6 เม็ด หรือเกือบครึ่งลูก ก็จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากความหวานของทุเรียนมากเกินไป มากถึงประมาณ 400 กิโลแคลอรี ซึ่งพอ ๆ กับกินข้าว 5 ทัพพี หรือกินน้ำอัดลมเกือบ 2 กระป๋อง หรือก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม แต่ถ้าสะกดใจไม่ได้จริง ๆ แล้วกินทุเรียนมากเกินไปจะต้องลดอาหารมื้อหลักประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมัน หรือหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มันจัด หวานจัด ในวันที่กินทุเรียน และอย่าลืมออกกำลังกายให้สม่ำเสมอในหน้าทุเรียน และมะม่วงสุก เพราะจะช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่สำหรับคนมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจหลอดเลือด ให้ระมัดระวังในการกินทุเรียน คือกินได้ในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ

การกินทุเรียนร่วมกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด เพราะในทุเรียนมีสารซัลเฟอร์อยู่มาก ซึ่งจะละลายได้ดีใน
แอลกอฮอล์ จะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็วทำให้เมาเร็ว และรุนแรงมากขึ้น  ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เกิดอาการร้อนใน  เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ส่วนความเชื่อที่ว่ากินทุเรียนแล้วให้กินมังคุดตามเพื่อแก้ร้อนใน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แม้จะไม่มีงานวิจัยรองรับ แต่คิดว่าเป็นกุศโลบายของคนรุ่นเก่า ที่คิดว่าทุเรียนเป็นของร้อนแล้วให้กินมังคุดเป็นของเย็นแก้กัน และคงต้องการให้คนกินผลไม้ที่หลากหลายชนิดด้วย”

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับคำแนะนำและความรู้ด้านโภชนาการดี ๆ ที่นำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่าน แต่อย่าลืมว่าสุขภาพดีไม่ได้เกิดจากการกินอย่างเดียว ต้องดูแลร่างกายและจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสด้วยค่ะ ขอให้อร่อย ๆ กับผลไม้ในหน้าร้อนนี้นะคะ

durian2

_________________________________________

อ้างอิงจาก
สง่า ดามาพงษ์. กินอยู่อย่างสง่า. กรุงเทพฯ : พีเพิลมีเดีย. 2554.