ยังจำเหตุการณ์ตอนที่ผู้บริหาร มอบหมายให้ไปเป็นวิทยากรได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เป็นวิทยากรผู้ช่วยมาได้ประมาณ ปีหรือสองปี แล้ว เพราะวิทยากรตัวหลักลาออก ก็เลยได้ร้บมอบหมายให้ทำหน้าที่แทน คำพูดที่เป็นคำตอบให้กับผู้บริหาร ก็คือ ทำไม่ได้ค่ะ แต่ผู้บริหารท่านนั้น ก็ยืนยันว่า เราทำได้ เป็นอันว่า สุดท้ายก็ต้องเป็นวิทยากรตัวจริง และเป็นวิทยากรตัวเล็กที่สุดในกลุ่มวิทยากรรุ่นนั้น
วิทยากร ต้องออกไปอยู่หน้าชั้นเรียน พูด และสอน หรือสื่อสารเนื้อหาที่ผู้เข้าอบรมรอฟังจากวิทยากร ช่างน่ากลัว จริงๆ เราจะพูดได้หรือ แล้วถ้ามีคนถาม เราจะตอบได้หรือเปล่า ทำอย่างไร นอนไม่หลับไปหลายคืน กลัวสารพัด กลัวว่าจะรู้ไม่มากพอที่จะไปสอน กลัวว่าจะพูดไม่รู้เรื่อง กลัวว่าจะคุมชั้นเรียน หริอคุมห้องอบรมไม่ได้ เป็นต้น
ต้องแก้ปัญหาความกลัวทีละข้อ
- กลัวรู้ไม่มากพอที่จะไปสอน ผู้บริหารบอกว่า เรารู้มากกว่าคนที่มาเรียนอยู่แล้ว เพราะถ้าคนเรียนรู้มากกว่า คงไม่เสียเงินมาเรียน
- กลัวพูดไม่รู้เรื่อง ใช้วิธีคิดคำพูดหรือเนื้อหาที่จะพูด แล้วมายืนพูดหน้ากระจก หรือมาพูดให้คนอื่นฟัง และขอความคิดเห็น
- กลัวคุมชั้นเรียนไม่ได้ ให้สอนอย่างเดียวตามขั้นตอน และพยายามให้คนเรียนทำตามที่เราสอนหรือพูดทีละขั้นตอน (เผอิญวิชาที่ได้รับมอบหมายให้สอนเป็นโปรแกรมห้องสมุด การกลัวที่จะผู้เรียนตามไม่ทัน แล้วก็จะวุ่นวาย โต๊ะนั้นตามทัน โต๊ะอื่นๆ ตามไม่ทัน ความโกลาหล จะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ)
พอตั้งสติได้ ปัญญาก็เกิด เริ่มเตรียมตัวเราเองเป็นอย่างดี ชีวิตการเป็นวิทยากรก็เริ่มต้นต้้งแต่นั้นมา และสั่งสมประสบการณ์การสอนมากขึ้นตามลำดับ ชั่วโมงบินสูงขึ้นเรื่อยๆ ขอบคุณผู้บริหารที่ให้โอกาสที่ดี ขอบคุณพี่วิทยากรที่ลาออก ทำให้มีที่ว่างให้ตัวเองได้ค้นพบความสามารถอีกอย่างหนึ่งของตัวเอง และขอบคุณความพยายามของตัวเอง