ชวนไปเที่ยว 3 แหล่งมรดกแห่งใหม่ในอาเซียน

เมื่อลมหนาวพัดมาพร้อมๆ กับเทศกาลหยุดยาวช่วงสิ้นปี หลายคนคงกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเดินทางสร้างแรงบันดาลใจพร้อมกับพักผ่อนไปในตัว อาจจะเป็นสถานที่ใกล้ๆ ในเมืองไทยหรือการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับตัวเอง อยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่มอาเซียนด้วยกันสักนิด … เพราะนอกจากจะเดินทางโดยไม่ต้องขอวีซ่าแล้วยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศไปพร้อมๆ กันด้วย

เมื่อไม่นานมานี้ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ได้ประกาศชื่อแหล่งมรดกโลกแห่งใหม่ ประจำปี พ.ศ.2557 ซึ่ง 3 ใน 26 แห่งทั่วโลกตั้งอยู่ในภูมิภาคอาเซียนนี่เอง ได้แก่

กลุ่มเมืองโบราณอาณาจักรพยู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

431931-4d0fe2cc-0013-11e4-a199-d36e19f21cac
อาณาจักรพยู สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์

เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกของเมียนมาร์ จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้ คือ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวพยู ซึ่งนักวิชาการบางท่านเชื่อว่า เป็นบรรพบุรุษของชาวเมียนมาร์ โดยมีการรวมกลุ่มของเมืองโบราณศรีเกษตร เปียทะโนมโย และหะลินยี คาดว่าจะมีสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 4 ซึ่งมีความยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองมาก เมื่อไปเยือนแล้วจะได้ชมเจดีย์ ซากเมืองโบราณ คูน้ำกำแพงเมืองที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในครั้งอดีต

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขาฮามิกีตัน สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

Sanctuaire de faune et de flore sauvages de la chaîne du mont Hamiguitan
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขาฮามิกีตัน สาธารณรัฐฟิลิปปินส์

ตั้งอยู่ตามแนวเขาตลอดคาบสมุทรพูจาดา ทางตอนใต้ของเกาะมินดาเนา เป็นที่อาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะสัตว์เฉพาะถิ่นที่พบได้ที่ฟิลิปปินส์เท่านั้นและใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกกระตั้วฟิลิปปินส์ และนกอินทรีฟิลิปปินส์ เป็นต้น

แหล่งภูมิทัศน์จ่างอาน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

Complexe paysager de Trang An
จ่างอาน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแบบผสม ทั้งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ด้วยจุดเด่นของที่นี่คือภูมิทัศน์อันงดงามของบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง บริเวณเขตของจังหวัดนิงห์บิงห์ ซึ่งจะรวมเมืองโบราณฮัวลู เมืองหลวงเก่าของเวียดนาม มีทั้งหมุ่บ้านและวัดหลายแห่ง นอกจากนั้นด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเขาหินปูน มีแม่น้ำหลายสายไหลลัดเลาะ พื้นที่บางส่วนจมอยู่ใต้น้ำและยังถูกล้อมด้วยผาสูง ทำให้สถานที่แห่งนี้งดงามแปลกตาน่าไปเยี่ยมชม
นักเดินทางที่ชอบความแปลกใหม่ และการเรียนรู้วัฒนธรรม ถ้ายังไม่มีแผนไปที่ใด แหล่งมรดกโลกทั้ง 3 แห่งใน 3 ประเทศอาเซียน น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าลองไปสัมผัสสักครั้ง

อ้างอิงจาก

อภินันท์ บัวหภักดี. (2557). เปิดโลก AEC: ยูเนสโกประกาศแหล่งมรดกโลกน้องใหม่อาเซียน. อนุสาร อ.ส.ท., 55(2), 37