หลายๆ คนอาจจะข้อสงสัยกันนะคะ ว่าเมื่อเรารับพนักงานใหม่เข้ามา งานบุคคลของเรามีวิธีการ และขั้นตอนอย่างไร วันนี้จึงขออธิบายขั้นตอนต่างๆของการรับตัวบุคลากรใหม่ให้กับทุกคนนะคะ

1. รับตัวบุคลากรบรรจุใหม่จากงานบริหารงานบุคคล กองการเจ้าหน้าที่
2. บุคลากรใหม่กรอกประวัติบุคลการใหม่ตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้

• แบบฟอร์มประวัติพนักงานมหาวิทยาลัย ส่งงานทะเบียนประวัติ กองการเจ้าหน้าที่
• แนบรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป
• แบบฟอร์มคำขอตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือ ส่งงานทะเบียนประวัติกองการเจ้าหน้าที่
• แบบฟอร์มคำขอมีบัตรประจำตัว ส่งงานทะเบียนประวัติกองการเจ้าหน้าที่
• แนบรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป
• แบบฟอร์มการขอ E-mail Account สำหรับเข้าใช้งานระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย ส่งงานทะเบียนประวัติกองการเจ้าหน้าที่
• ประวัติบุคลากร เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลประวัติของสำนักหอสมุด
• แนบรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป
• แบบฟอร์มขอใช้บริการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก (กรณีบรรจุใหม่) ส่งงานการเงิน กองคลัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• แนบสำเนาบัญชีธนาคารพาณิชย์/สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 1 ฉบับ
• แบบฟอร์มสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่งงานสวัสดิการ กองการเจ้าหน้าที่
• แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 1 ชุด
• แบบฟอร์มคำขอเอาประกันภัยกลุ่ม บริษัท ไทยประสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ส่งงานสวัสดิการกองการเจ้าหน้าที่
• สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อตนเอง จำนวน 1 ชุด
• สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อผู้ที่ระบุให้ได้รับสวัสดิการ จำนวน 1 ชุด
• สำเนาสูติบัตร (กรณีเลือกบุตร) จำนวน 1 ชุด
• สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีเลือกคู่สมรส) จำนวน 1 ชุด
• แบบฟอร์มขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ส่งงานสวัสดิการ กองการเจ้าหน้าที่
• แบบ สปส.1-03/1 (สำหรับผู้ที่เคยขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนแล้ว)
• แบบ สปส.1-03 (สำหรับผู้ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน)
• แบบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 1 ชุด

Continue reading ขั้นตอนการรับตัวบุคลากรใหม่ →

ในทุกๆ ปี สำนักหอสมุดจะต้องมีการสัมมนาบุคลากรประจำปี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร และเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ของสำนักหอสมุดร่วมกัน ซึ่งในการจัดสัมมาบุคลากรนั้นจะมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

1. หาสถานที่ที่จะต้องไปสัมมนา โดยการสอบถามบุคลากรของสำนักฯ  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องคำนึงถึงสภาพภูมิอากาศ และช่วงเดือนที่จะต้องไป ซึ่งส่วนใหญ่ห้องสมุดของเราจะไปในช่วงปิดเทอม เพื่อให้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้บริการให้น้อยที่สุด

2. เมื่อหาสถานที่ที่จะไปได้แล้ว เราจะต้องหาที่พัก ที่ไหนบ้างที่จะจุคนได้เป็นจำนวนมาก มีกิจกรรมให้บุคลากรสามารถที่จะทำได้  และในช่วงเวลาที่เราจัดสัมมนา โรงแรมสามารถที่จะรองรับบุคลากรของเราได้หรือมีห้องเพียงพอหรือไม่

3. เมื่อได้วันที่จะไปสัมมนาเรียบร้อยแล้ว ก็จะสอบถามบุคลากรเพื่อให้ทราบจำนวนของคนที่จะไปสัมมนา เพื่อดำเนินการจองที่พัก และรถ

4. เมื่อได้จำนวนคนที่แน่นอนแล้ว ก็ดำเนินการติดต่อโรงแรม และรถ ให้พอดีกับจำนวนบุคลากร และหากจะต้องมีการปิดห้องสมุดเพื่อไปสัมมนาจะต้องดำเนินการทำบันทึกแจ้งไปยังมหาวิทยาลัย

5. จัดทำกำหนดการ วางแผนว่าจะให้บุคลากรเดินทางเมื่อไหร่ ขึ้นรถยังไง  และจะมีการดูงานที่ไหนบ้าง

6. หลังจากนั้นก็จะต้องติดต่อในเรื่องที่พัก  อาหาร สถานที่ดูงาน และสรุปรวมค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปจัดทำโครงการ

7. จัดทำโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณในการเดินทาง

8. ในขั้นตอนนี้จะต้องมีการคอนเฟิร์มห้องพักอีกครั้ง รวมทั้งร้านอาหาร รถ  และสถานที่ศึกษาดูงาน เพื่อจ่ายเงินมัดจำ

9. เมื่อได้ห้องพักและจำนวนคนที่แน่นอน ก็จะต้องจัดห้องพักให้กับบุคลากร และจัดรถให้ว่าใครจะขึ้นที่รังสิต หรือท่าพระจันทร์

10. จะต้องหาคนคุมรถแต่ละคันเพื่อให้ดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากร คันละ 2 คน อีกทั้งจะต้องมีการนัดแนะเพื่อให้เข้าใจตรงกัน

11. จัดเตรียมในเรื่องของน้ำที่จะนำขึ้นไปแจกบนรถ  และทำบันทึกไปยังมหาวิทยาลัยสำหรับบุคลากรที่ต้องการจะนำรถมาจอดค้างคืนที่มหาวิทยาลัยในวันที่เราไปสัมมนา รวมถึงการทำบันทึกไปขอที่จอดรถบัสที่จะเข้ามารับบุคลากรด้วย

12. ในวันก่อนเดินทาง 1-2 วันก็จะมีการแจก tag กระเป๋าให้กับบุคลากร และทำเรื่องเพื่อขอเบิกยาสามัญประจำบ้านไว้สำหรับการเดินทาง หากๆ ป้าๆ พี่ๆน้องๆ  ไม่สบาย ปวดท้องก็สามารถมาขอยาได้ที่คนคุมรถนะคะ

ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและมีความสุขตลอดการเดินทางนะคะ

นานมาแล้วสมัยยังเรียนมัธยม หนังสือชื่อเพชรพระอุมา เป็นชื่อที่ครูวิชาภาษาไทยพูดให้ฟังว่าเป็นหนังสือนิยายแฟนตาซีของเมืองไทยที่สนุกมาก ฟังครูพูด และดูจากสีหน้าของครูแล้วคงจะเป็นหนังสือที่สนุกจริงๆ แต่เมื่อมาดูจากชื่อเรื่องแล้ว “เพชรพระอุมา” มันจะคล้ายๆ กับเพชรซาอุหรือเปล่า เรื่องนี่มันจะเป็นเรื่องแบบไหน ฟังจากชื่อเรื่องแล้วนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่ามันจะกลายเป็นนิยายแฟนตาซีที่น่าอ่าน และสนุกตรงไหน ณ ตอนนั้นอยากอ่านนะ แต่ยังไม่อ่านดีกว่า เพราะคิดว่ามันคงไม่ใช่แนวที่เราชอบ แต่ก็คิดว่าถ้ามีโอากสก็จะลองอ่านดู อีกอย่างหนังสือเรื่องนี้หายากเหมือนกันนะ  ไม่รู้ว่าจะไปเริ่มอ่านจากตรงไหน

จนเวลาล่วงเลยมาจนจบปริญญาตรี ก็ยังไม่ได้มีโอกาสอ่าน มีครูภาษาไทยที่มหาลัยพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน  ก็ยังพูดๆกับเพื่อนเหมือนกันว่าเรื่องมันจะเป็นแนวไหน แต่ยัง มันยังไม่ดึงดูดมากพอที่จะทำให้เราออกค้นหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านสักที Continue reading เพชรพระอุมา →

เนื่องจากตอนนี้กระแสรหัสมอร์สกำลังเป็นที่นิยม ตามข่าวที่นายเคนจิ โกโตะ ตัวประกันชาวญี่ปุ่นที่โดน ผู้ก่อการร้ายกลุ่ม ISIS จับกุมนั้น ได้พยายามส่งรหัสมอสผ่านการกระพริบตา ซึ่งมีคนที่จับสังเกตได้ แต่ยังมีอีกหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ารหัสมอสคืออะไร ซึ่งวันนี้เราจะมาดูกันว่ารหัสมอร์ส คืออะไร

รหัสมอร์ส คือ  รหัสที่มีไว้สำหรับการสื่อสารติดต่อกันภายในกลุ่ม โดยไม่ต้องเปล่งออกมาเป็นคำพูดไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟฉาย การเคาะ การกระพริบตา หรือแม้แต่การใช้สัญลักษณ์ ส่งข้อมูลด้วยการใช้รูปแบบสัญลักษณ์สั้นและยาวที่กำหนดขึ้นเป็นมาตรฐานไว้แล้ว ซึ่งมักจะแทนด้วยเครื่องหมายจุด (.) และ เครื่องหมายขีด (-) ผสมกันเป็นความหมายของตัวหนังสือ ตัวเลข และเครื่องหมายพิเศษต่างๆ รหัสมอร์สมีการคิดค้นขึ้นในปี พ.ศ.2380 โดย แซมมวล ฟินลี บรีซ มอร์ส เพื่อใช้ในการส่งโทรเลข สำหรับประเทศไทยนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้นำระบบโทรเลขรหัสมอร์สเข้ามาใช้  ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของรหัสมอร์สในประเทศไทย มีการคิดค้นรหัสมอร์สภาษาไทยขึ้นและประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2455

ขั้นตอนการฝึกรหัสมอส

1. ฝึกท่องจำตัวอักษรทั้งหมดให้ได้ก่อน
2. ฝึกรับโดยการเขียนเริ่มจากความเร็วช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มระดับความเร็วขึ้นเมื่อคล่อง
3. ฝึกเคาะให้ได้จังหวะที่ถูกต้องและได้ความเร็วระดับที่ต้องการ
4. ฝึกผสมทั้งรับและส่ง

รายการบรรณานุกรม

อัคราวุธ เทพวรชัย และคนอื่นๆ. รหัสมอร์สเพื่อการสื่อสาร (Morse Codes). สืบค้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2558 จาก http://www.thaitelecomkm.org/TTE/topic/attach/Morse_Codes/index.php