All posts by นางสาวภาวนา วัชรเสถียร

คนขี้กังวลเป็นคนฉลาด

นักวิจัยค้นพบความสัมพันธ์ว่าคนที่มีความกังวลมักเป็นคนที่มีความฉลาดด้านการใช้คำพูด (Verbal intelligence)

คณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยเลคเฮด ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา นำโดยอเล็กซานเดอร์ เพนนีย์ ศึกษาข้อมูลจากนักศึกษา 126 คน โดยสอบถามมองโลก ย่อโลกข่าวสาร วิทยาการสมัยใหม่ จากทั่วทุกมุมโลกเกี่ยวกับระดับความกังวล ความโศกเศร้า อารมณ์โดยรวม ทักษะทางสังคม การไตร่ตรอง และความฉลาด แล้วนำคำตอบที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อจัดลำดับคะแนนของแต่ละคน ตามแบบวัดความกังวลด้วยการทดสอบการเรียนรู้ (Cognitive Test Anxiety Scale, CTAS) และแบบวัดความฉลาดของผู้ใหญ่เวคส์เลอร์ (Wechsler Adult Intelligence Scale, WAIS) คนที่ได้คะแนนสูงหมายความว่า มีระดับความกังวลมากและมีความฉลาดด้านการใช้คำพูดมากตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่า คนที่มีคะแนน CTAS สูงสุด มีความฉลาดด้านการใช้คำพูดสูง

ที่มา:  “มองโลก ย่อโลกข่าวสาร วิทยาการสมัยใหม่ จากทั่วทุกมุมโลก” อัพเดท ปีที่ 30 ฉบับที่ 328 (มี.ค. – เม.ย. 2558) น. 16.

กินยาลดกรดนานๆ เสี่ยงกระดูกพรุน

การศึกษาในกลุ่มพยาบาลอายุ 30-55 ปี เกือบ 80,000 คน พบว่าคนที่กินยาลดกรดกลุ่ม PPls นานๆ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการกระดูกสะโพกหรือกระดูกต้นท่อนบนหักถึง 50% และโอกาสที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นหากกินยา PPls นานต่อเนื่องเป็นปีๆ หากมีความจำเป็นผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ยาเพียงระยะสั้นๆไม่เกิน1-2 เดือน นอกจากนี้ก็ไม่ควรสูบบุหรี่และไม่หายใจเอาควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบเข้าไปเนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น

ที่มา:

กองบรรณาธิการ “ยาลดกรด… กินนานๆ เสี่ยงกระดูกพรุน” นิตยสารBE WELL ปีที่ 9 ฉบับที่ 100 (กุมภาพันธ์ – เมษายน 2558) น. 33.

การขูดหินปูนจะทำให้หัวใจและสมองดีไป7ปี

จากการทดลองที่ประเทศไต้หวัน พบว่า การขูดหินปูน (Scaling) เพื่อทำความสะอาดในผู้สูงอายุช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และสโตรคได้นานถึง 7  ปี ทั้งนี้การขูดหินปูนเป็นการทำความสะอาดฟัน เพื่อขูดคราบพลัคที่ผิวฟัน และในเบ้าฟันส่วนใต้แนวเหงือก ซึ่งพลัคจะทำให้เหงือกอักเสบเนื้อเยื่อรอบโคนฟันอักเสบเรื้อรัง ทำให้สารก่อการอักเสบแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดอักเสบเพิ่มเสี่ยงหลอดเลือดตีบตัน การขูดหินปูนทุก 2 ปี มีส่วนช่วยลดเสี่ยงโรคหัวใจได้ถึง 31 เปอร์เซนต์และลดเสี่ยงสโตรคหรือกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต 15 เปอร์เซนต์

ที่มา:

กองบรรณาธิการ “เชื่อมั้ยว่า… ถ้าคุณขูดหินปูน..จะทำให้หัวใจ และสมอง ดีไป 7 ปี เชียวนะ” นิตยสาร BE WELL ปีที่ 9 ฉบับที่ 100 (กุมภาพันธ์ – เมษายน 2558) น. 86.

12 พฤติกรรมที่ทำให้สุขภาพจิตเสีย

ใครอยู่ในข่าย 12  พฤติกรรมที่ทำให้สุขภาพจิตเสีย นี้ รีบขจัดหรือหลีกเลี่ยง โดยด่วน พฤติกรรมเหล่านี้ได้แก่

1. เดินงอตัว มีการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน the Journal of Behavior Therapy and Experimental Psychiatry เปิดเผยให้เห็นว่าผู้ที่มีลักษณะการเดินงอตัว หรือเดินไหล่ตก และมีการเคลื่อนไหวของแขนน้อยมักจะเป็นคนที่อารมณ์เสียง่ายกว่าคนที่เดินด้วยความมั่นใจ นอกจากนี้ผู้ที่เดินด้วยท่าทางห่อเหี่ยวยังเป็นคนที่ชอบจดจำสิ่งร้าย ๆ ได้มากกว่าสิ่งดี ๆ

Continue reading 12 พฤติกรรมที่ทำให้สุขภาพจิตเสีย

เคล็ดลับฝึกสมองให้แข็งแรง

วันนี้ มีเคล็ดลับการฝึกสมองให้แข็งแรง มาเล่าสู่กันฟังค่ะ

  1. ฝึกความเคยชินให้ความจำ
  2. หัดทำในสิ่งที่แตกต่าง การเรียนรู้สิ่งใหม่แบบซ้ำไปซ้ำมาจะช่วยให้สมองสร้างพื้นที่ไว้สำหรับจดจำและสั่งให้ร่างกายทำตามอย่างแม่นยำขึ้น เช่นจัดโต๊ะทำงานใหม่ จัดมุมในบ้านใหม่
  3. เรียนรู้สิ่งใหม่การเรียนรู้สิ่งใหม่ แบบที่ไม่เคยได้ลองมาก่อนเลยในชีวิตเช่น เรียนดนตรี หรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้สมองถูกใช้งานมากขึ้น ป้องกันสมองฝ่อและหยุดนิ่งจนเกินไป
  4. เล่นโปรแกรมฝึกสมอง สำหรับคนที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสามารถฝึกสมองได้
  5. ออกกำลังกาย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การเคลื่อนไหวร่างกายไปมาจะช่วยให้สมองเชื่อมโยงระบบเส้นประสาทได้เร็วขึ้น สมองจะถูกกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว รวมทั้งประสิทธิภาพในการทำงานของสมองก็จะถูกปลุกให้ตื่นเต็มที่
  6. ใช้เวลาอยู่กับคนรัก การอยู่กับคนที่เรารักจะสามารถพัฒนาทักษะความรู้ความเข้าใจของสมองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการที่เราจะดูแลความรู้สึกใครได้ย่อมต้องใช้สมองในการไตร่ตรองความชอบความไม่ชอบของเขาด้วย
  7. รับประทานดาร์กช็อกโกแลต เพราะสมองจะหลั่งโดพามีน ตัวช่วยให้สมองไวและความจำดีออกมา อีกทั้งในดาร์กช็อกโกแลตยังมีฟลาโวนอลและสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำงานของสมอง

ที่มา:

ความจำดี๊ดี เรียนรู้ได้เร็วกว่า อย่ารอช้าต้องรีบฝึกสมอง สืบค้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2558 จาก http://health.kapook.com/view116414.html

แนวคิดการทำงาน (ญี่ปุ่น) ที่น่ามาปรับใช้

เรามักจะได้ยินว่า คนญี่ปุ่นเป็นคนมีวินัย และในการทำงานของคนญี่ปุ่นเองก็มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจทีเดียว เลยอยากนำเสนอเผื่อจะนำมาปรับใช้ในการทำงานของเรากันบ้างค่ะ

1. การให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนนามบัตรในทางธุรกิจ  คนญี่ปุ่นถือว่าเป็นการแสดงความสำคัญของบุคคลที่เราพบปะด้วย ทางไทยเราเองก็มีการแลกเปลี่ยนเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นแค่การแนะนำตัวหรือไว้ติดต่อกันในภายหลัง แต่ถ้าเราเริ่มหันมาให้ความสนใจกับนามบัตรที่ได้รับ อ่านรายละเอียดที่อยู่ในนามบัตร

2. เชื่อตามผู้อาวุโส  ข้อนี้ คล้ายๆ กับสุภาษิตของไทยที่ว่า เดินตามผู้ใหญ่… หรือ ผู้ใหญ่มักจะให้เหตุผลเวลาแนะนำหรือท้วงติงว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน คนญี่ปุ่นยังคงให้ความเคารพแก่ผู้อาวุโสหรือผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า ของเราเองก็เช่นกัน ผู้อาวุโสกว่าย่อมมีประสบการณ์มากเช่นเดียวกัน เราก็ควรให้ความสำคัญและเคารพคำแนะนำจากผู้มีอาวุโสกว่าที่เป็นยอมรับ

3. ค่อยๆ ซึมซับและปฏิบัติตามเป้าหมายขององค์กร  เพราะเราทำงานต้องมีเป้าหมายในองค์กร คนญี่ปุ่นมักจะเน้นย้ำเรื่องเป้าหมายองค์กรในระยะยาว และความคาดหวังจากบุคลากร เราเองก็เช่นเดียวกัน ควรมีการระลึกอยู่เสมอว่า เราทำงานตามเป้าหมายขององค์กรอยู่หรือไม่

4. รักษาสีหน้าให้เป็นปกติและเหมือนเดิม (ระหว่างทำงาน)  สอนให้เป็นผู้ใหญ่ หรือ maturity ไม่ใช้อารมณ์หรือแสดงอารมณ์ออกมา สิ่งใดที่เป็นเหตุผล สามารถยอมรับได้ ก็นำมาปฏิบัติหรือพัฒนาปรับปรุงต่อไป

5. งานเป็นงาน เล่นเป็นเล่น  ต้องบริหารเวลาให้มีความสมดุลระหว่างงานและการพักผ่อน

6. ให้ความสำคัญ กับเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์  เน้นความสัมพันธ์ในองค์กร เพื่อจะนำไปสู่ความสำเร็จของงาน

6 แนวทางน่าจะนำไปปรับใช้ในการทำงานของเรานะคะ บางข้ออาจได้มีการทำอยู่แล้ว บางข้ออาจจะไม่เคยมาก่อน แต่ทุกข้อ ขอบอกว่าเป็นเทคนิคในการทำงานที่ดีและจะไปนำสู่ความสำเร็จค่ะ

รายการอ้างอิง
นำ 6 แนวคิดการทำงานของญี่ปุ่นมาใช้. สืบค้นเมื่อวันที่  20 เมษายน 2558 จาก http://www.siamsafety.com/index.php?page=moral/moral_korkid_10082010&ps_session=c9ad0e6bc2a0c4b3a519090e0d618ff2