All posts by นางสาวสุกัญญา คำภาศรี

Dogpark-BMA สวนสุนัขแห่งแรกของประเทศไทย

บทความนี้ผู้เขียนขอเอาใจคนรักเจ้าตูบที่อยากพาเพื่อนซี้สี่ขาไปเดินผ่อนคลายหรือออกกำลังกายควบคู่กันไปนะคะ ผู้เขียนอยากแนะนำสวนสุนัขแห่งแรกของประเทศไทยซึ่งเป็นโครงการที่กรุงเทพมหานครร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้คิดก่อสร้างสวนสุนัข (Dog park) ขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนพิเศษศรีรัช (ส่วนต่อขยาย ถนนรามอินทรา-กาญจนาภิเษก) บริเวณทางแยกต่างระดับวัชรพล เขตบางเขน บนพื้นที่ 4.6 ไร่ โดยสวนสุนัขดังกล่าวจะอยู่ในพื้นที่สวนสาธารณะเพื่อประชาชนทั่วไปด้วย แต่มีการแบ่งพื้นที่กันอย่างชัดเจน รวมเป็นพื้นที่สวนสาธารณะทั้งคนและสัตว์ 34 ไร่ 18 ตารางวา และมีพื้นที่จอดรถได้อย่างสะดวกสบาย โดยในพื้นที่ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่

1) โซนคัดกรอง สำนักอนามัยจะทำหน้าที่ในการดำเนินการคัดกรองสุนัข เพราะสุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกัน พร้อมทั้งดูแลความสะอาดเป็นพิเศษ รวมทั้ง จัดให้มีสัตวแพทย์มาประจำ
2) โซนลากจูงสุนัข สำหรับสุนัขพันธุ์ดุที่ต้องควบคุมเป็นพิเศษ
3) โซนปล่อยอิสระ ซึ่งโซนนี้ เจ้าของสุนัขจะต้องพาสุนัขของตัวเองมาตรวจ และเข้าทดสอบด้วยว่าสามารถปล่อยเชือกได้หรือไม่ หากปล่อยแล้วจะต้องไม่ไปทำร้ายสุขนัขตัวอื่น ๆ Continue reading Dogpark-BMA สวนสุนัขแห่งแรกของประเทศไทย

ชวนอ่าน ในแสงแดดมีดวงดาว

งานสัปห์ดาหนังสือแห่งชาติครั้งที่ 43 ที่ผ่านมาผู้เขียนได้มีโอกาสไปงาน ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในการไปงานสัปห์ดาหนังสือ ซึ่งผู้เขียนเลือกไปในวันที่ 2 เมษายน 2558 ที่เลือกไปวันนี้เพราะดูจากตารางนักเขียนที่ชื่นชอบจะไปแจกลายเซ็นต์ ซึ่งนักเขียนคนนั้นคือ หนุ่มเมืองจันท์ (สรกล อดุลยานนท์) พูดได้ว่าไปงานสัปห์ดาหนังสือในครั้งนี้ตื่นเต้นมาก เพราะจะได้เจอกับนักเขียนที่ชื่นชอบมาหลายปี สะสมหนังสือมาเกือบทุกเล่มแต่ไม่เคยเจอนักเขียนสักที เลยถือโอกาสนี้ซื้อหนังสือเล่มใหม่และเจอนักเขียนตัวจริง

11102627_936675933020702_4255877537986977862_n

เริ่มแรกเลยที่ทำให้รู้จักกับหนังสือของนักเขียนคนนี้ ย้อนไปเมื่อผู้เขียนเข้ามาทำงานใหม่ๆที่สำนักหอสมุด ได้มีโอกาสฝึกงานที่งานบริการยืม-คืน ในช่วงที่ไม่มีผู้ใช้บริการก็เลยได้เลือกหยิบหนังสือจากรถเข็นที่วางหนังสือที่ผู้ใช้บริการคืนมาอ่านคร่าเวลารอผู้ใช้บริการ หนังสือเล่มนั้นคือ “ให้โอกาส กับ สิ่งที่เราไม่รู้” ของ หนุ่มเมืองจันท์ ซึ่งเป็นหนังสือชุด ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ฉบับที่ ๑๖ อ่านครั้งแรกก็ชอบมาก คิดเลยว่าจะต้องไปหาหนังสือเล่มอื่นๆของนักเขียนคนนี้มาอ่านและเก็บไว้ให้ได้ เลยเป็นที่มาในการเขียนครั้งนี้เพื่อที่จะแนะนำหนังสือเล่มล่าสุดของหนุ่มเมืองจันท์
Continue reading ชวนอ่าน ในแสงแดดมีดวงดาว

หัวเราะบำบัด…จากอารมณ์ขันสู่การรักษาโรค

คนเราถ้าอารมณ์ดีก็จะช่วยขยายความคิดสร้างสรรค์มากมาย ในทางกลับกันถ้าอยู่ในอารมณ์หวาดวิตก เคร่งเครียด หรือแม้แต่ความมุ่งมั่นมากเกินไป จะมีผลต่อความคิดจะหดแคบเข้ามา ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้นเราลองมาปรับอารมณ์เราให้ดีด้วยเสียงหัวเราะที่เรียกว่า “หัวเราะบำบัด” เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ร่างกายเราดีกว่า

ก่อนที่จะไปฝึกการหัวเราะ เรามาทำความรู้จักกับการหัวเราะกันก่อนนะคะ การหัวเราะแบ่งได้ 2 ประเภท คือ หัวเราะธรรมชาติ เกิดจากถูกกระตุ้นให้มีอารมณ์ขัน ซึ่งเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน และหัวเราะบำบัด เป็นการหัวเราะแบบรู้ตัว เพื่อใช้ประโยชน์จากการหัวเราะกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เราอารมณ์ดี มีความสุข จนมีนักวิชาการบางท่านนิยามสารชีวเคมีนี้ว่าเป็น “สารสุข” ซึ่งการหัวเราะส่งผลดีกับระบบการทำงานของร่างกายมากมาย ได้แก่ ระบบทำงานของสมอง ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบพักผ่อนและผิวพรรณ ระบบเจริญพันธุ์ และระบบภูมิคุ้มกัน

เมื่อเราทำความรู้จักและประโยชน์ของการหัวเราะแล้ว เรามาเริ่มการฝึกหัวเราะกันเลยดีกว่า การฝึกหัวเราะด้วยตนเองนั้นไม่ยาก ขั้นแรก ฝึกหัวเราะโดยมีสิ่งกระตุ้น เช่น ดูภาพยนตร์ตลก และหัวเราะเสียงดัง จากนั้นฝึกหัวเราะโดยไม่มีสิ่งกระตุ้น โดยแยกอารมณ์ขันออกจากการหัวเราะ หรือเข้าใจว่าการหัวเราะไม่จำเป็นต้องมาจาก “ความรู้สึกตลก” เสมอไป การหัวเราะโดยไม่มีเหตุผลนี้ให้เริ่มจากหัวเราะคิกคักและหัวเราะเสียงดังด้วยการเปล่งเสียงออกมาจากท้องผ่านลำคอและริมฝีปาก ด้วยการเปล่งเสียงโอ อา อู เอ โดยเสียง “โอ” ทำให้ภายในท้องขยับ เสียง “อา” ทำให้อกขยับขยาย เสียง “อู” เสียง “เอ” ทำให้ลำคอเปิดโล่ง และช่วยบริหารใบหน้า Continue reading หัวเราะบำบัด…จากอารมณ์ขันสู่การรักษาโรค

EXAT ITS รู้สภาพการจราจรบนทางด่วน

ในชีวิตประจำวันของคนกรุงเทพมหานครต้องยอมรับเลยว่าหลายคนเคยใช้บริการทางด่วนหรือการทางพิเศษอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวหรือรถบริการสาธารณะ รถเมล์ รถแท็กซี่ก็ต้องมีสักครั้งที่มีโอกาสใช้บริการ เพื่อเดินทางจากจุดเชื่อมต่อหนึ่งไปยังอีกจุดหมายให้ถึงจุดหมายได้สะดวกและรวดเร็ว แต่ในบางครั้งหรือบางเวลาทางด่วนก็มีการจราจรที่ไม่ด่วน เชื่อได้เลยว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหานี้ จะดีกว่าไหมถ้ามีสิ่งที่ช่วยบอกให้ได้ว่าควรเลือกใช้ทางด่วนในขณะนั้นหรือไม่ หรือควรใช้ทางธรรมดาดีกว่า มีสิ่งที่ช่วยบอกเราได้ว่าต้องใช้เวลาในการเดินทางเท่าไหร่และรถติดเพียงใด
จากปัญหาข้างต้นผู้เขียนมีแอพพลิเคชั่นอยากแนะนำซึ่งเกี่ยวกับทางด่วน มีชื่อว่า “EXAT ITS” แอพพลิเคชั่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้ทางด่วนทราบถึงสภาพการจราจรโดยรวมแบบ Real time และ ยังสามารรถคำนวณระยะเวลาการเดินทางจากจุดเริ่มต้นถึงปลายทางได้อย่างแม่นยำตามสภาพการจราจรในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้ยังมีแผนที่อัจฉริยะสำหรับนำทางไปยังด่านเก็บเงินที่ใกล้ที่สุดได้ ในแผนที่อัจฉริยะนี้เรายังสามารถเลือกได้ว่าจะให้ปรากฏอะไรได้บ้าง เช่น ป้ายจราจรอัจฉริยะ  อุบัติเหตุ กล้อง CCTV ด่านเก็บค่าผ่านทาง, สถานีตำรวจทางด่วน จุดกลับรถในทางพิเศษ จุดพักรถในทางพิเศษ ตลอดจนจุดซ่อมแซมบำรุงทางพิเศษ สามารถเลือกได้ทั้งหมดหรือเลือกเพียงอันใดอันหนึ่งก็ได้ ผู้ใช้ Easy pass ยังสามารถใช้ EXAT ITS App เชื่อมไปยังหน้าเว็บไซต์ thaieaypass.com เพื่อตรวจสอบยอดคงเหลือในบัตร Easy Pass ได้อีกด้วย แอพพลิเคชั่นนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้มีส่วนร่วมในการรายงานสถานการณ์หรืออุบัติเหตุที่เกิดบนทางด่วน และยังช่วยรวบรวมเบอร์โทรฉุกเฉินให้ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นนี้ด้วย Continue reading EXAT ITS รู้สภาพการจราจรบนทางด่วน

ผักผลไม้…ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ. นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ ได้เขียนบทความเกี่ยวกับผักผลไม้ที่ควรระวังในผู้ป่วยเรื้อรังไว้ว่า ผัก ผลไม้ที่เราทุกคนรับประทานอยู่ทุกวันนี้ ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกายนั้นบางชนิดกลับมีอันตรายต่อร่างกายเราอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งอาจจะมีมาจากหลายสาเหตุ ทั้งผัก ผลไม้นั้นมีสารพิษในตัวมันเอง หรือผักผลไม้บางชนิดมีสารหรือแร่ธาตุบางชนิดในประมาณสูง อาจจะก่อให้เกิดโทษกับผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางโรคได้ ซึ่งผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรพึงระวัง

นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงตัวอย่างผักผลไม้ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรังและที่อาจจะก่อเกิดอันตรายกับผู้บริโภคทั่วไป ถ้าหากรับประทานในปริมาณมาก หรือบริโภคผิดส่วน หรือไม่ได้ผ่านกระบวนการปรุงให้ดีก่อนการรับประทาน

ตัวอย่าง ผัก ผลไม้ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง

1. ผู้ป่วยโรคไต: ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักผลไม้ที่มีสารที่มีกรดอ็อกซาริก (oxalic acid) ปริมาณสูง ตัวอย่างผักผลไม้ที่มีกรดอ็อกซาลิกสูงมากกว่า 300 มิลลิกรัม/100 กรัม ได้แก่ มันสำปะหลัง โกศน้ำเต้า ผักโขม ผักแพว ปวยเล้ง มะเฟืองเปรี้ยว ใบชะพลู แครอท หัวไชท้าว ใบยอ และกระเทียม ข้อสังเกตอาการคือ จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดเอว ปัสสาวะปริมาณลดลง ผลการตรวจปัสสาวะอาจพบเม็ดเลือดแดงปนร่วมกับผลึกแคลเซี่ยมอ็อกซาเรท (calcium oxalate crystals)

นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผัก ผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียม (potassium) สูง ผลไม้บางชนิดควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ทุเรียนก้านยาว ทุเรียนชะนี กล้วยหอม และส้มสายน้ำผึ้ง ส่วนผักที่มีโพแทสเซียมสูง ได้แก่ ผักโขม และหน่อไม้

2. ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย (thalassemia): เป็นโรคเลือดจางที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคนี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับสัตว์ เลือดสัตว์ เครื่องในและผักผลไม้ที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ผักกูด ถั่วฝักยาว ผักแว่น เห็ดฟาง พริกหวาน ใบแมงลัก ใบกะเพรา ผักเม็ก ยอดมะกอก ยอดกระถิน

3. ผู้ป่วยโรคไทรอยด์: ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรระวังการบริโภคพืชวงศ์ Cruciferae ได้แก่ กะหล่ำปลี ทูนิป horseradish และเมล็ดพรรณผักกาดชนิดต่างๆ เช่นเมล็ดพรรณผักกาดสีดำ ขาว และน้ำตาล พืชเหล่านี้จะมีสาร กลูโคซิโนเลท (เป็นสาร goitrogen) แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้โดยการต้ม จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุกจะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ Continue reading ผักผลไม้…ที่ควรระวังในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง