ในแต่ละวันเราใช้สายตากับการทำงานกันวันละหลายชั่วโมง ส่วนใหญ่จะนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์กันทั้งนั้น บางคนนั่งทำงานกันต่อเนื่องกันนานเกินไป แต่ถ้าเราไม่อยากลุกจากเก้าอี้ทำงาน ก็มีวิธีการบริหารสายตามาฝากนะง่าย ๆ นั่นก็คือ ให้กระพริบตาถี่ๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา หรือนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง มองต้นไม้สีเขียวก็ช่วยได้เหมือนกันนะ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ต้องรับประทานอาหารบำรุงสายตาควบคู่กันไปด้วย จะช่วยถนอมสายตาเราได้ดีมากกว่าไม่ทานอะไรบำรุงสายตาเลย อยากทราบว่าอาหารชนิดไหนบำรุงสายตา โปรดอ่านต่อที่นี่

แหล่งอ้างอิง :
อาหารบำรุงสายตา. สืบค้น เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2558, จาก  http://www.student.chula.ac.th/~53373133/eyesfood.htm

ปัจจุบันปัญหาทางสายตาของของเพื่อนๆ ที่ทำงานมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง และสายตาที่มีปัญาหาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ จึงขอฝากถึงเพื่อนๆ ว่าทุกคนควรให้ความสำคัญในการดูแลถนอมดวงตา

หากต้องการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือใช้สมาร์ทโฟน ควรหมั่นพักสายตาเป็นระยะๆ รวมถึงนั่งทำงานในที่มีแสงสว่างพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดที่ดวงตา การรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา เพื่อนๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีละครั้ง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงใช้สายตามากไม่ได้และต้องอาศัยแว่นตาในการช่วยการมองเห็นอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นก็ควรใช้แว่นสายตาน่ะค่ะ

จึงขอเชิญชวนเพื่อนๆ มาตัดแว่นกันเถอะค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา  ราคาของแว่นตาไม่แพงอย่างที่คิดไว้ และที่สำคัญมองเห็นชัดร้อยเปอร์เซ็นต์และสวยได้เหมือนเดิมเพราะเดี๋ยวนี้มีแว่นตาสไตล์แฟชั่นออกมาหลากหลายเลือกได้ตามใจชอบค่ะ เหมือนได้ดวงตาคู่ใหม่มาใส่แทนคู่เก่ายังไงอย่างงั้นเลยเชียว และอีกอย่างหน่วยงานก็สนับสนุนในการออกค่าใช้จ่ายหรือมีสวัสดิการเรื่องการตัดแว่นสายตา แม้ว่าจะไม่ได้เป็นราคาที่มากมายนั้น แต่ก็เป็นหลักพันอยู่นะค่ะ เพื่อนๆ สามารถนำใบเสร็จรับเงินตัดแว่นสายตามาเบิกได้ที่สำนักงานเลขานุการงานการเงินค่ะ เพื่อนๆ ต้องการคำแนะนำก็สามารถติดต่องานการเงินได้ ยินดีให้คำแนะนำได้ตลอดเวลาค่ะ

ในปัจจุบันคนเรามีความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับสายตามากขึ้น เนื่องจากการใช้อุปกรณ์ไอทีติดต่อกันเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือมือถือสมาร์ทโฟนต่างๆ ส่งผลให้สายตาผิดปกติมากขึ้น ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ใช้มีอาการปวดตา ตาแห้ง สายตาล้า และมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย ผู้เขียนจึงขอแนะนำวิธีป้องกันอาการดังกล่าว ซึ่งชาวสำนักหอสมุดทุกท่านสามารถทำได้ มีวิธีการง่ายๆดังนี้ค่ะ

• ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม ถ้าหน้าจอสว่างมากเกินไป ก็ควรลดความสว่างหน้าจอลง และไม่ควรใช้งานอุปกรณ์ไอทีในที่มืด จะทำให้สายตาล้าได้ง่าย
• กะพริบตาให้ถี่ขึ้น เพราะอาการตาแห้งเกิดจากการที่เรากะพริบตาน้อยลง หรืออาจจะใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาก็ได้
• จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม โดยพยายามวางจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ด้านข้างของหน้าต่าง เพื่อลดแสงสะท้อนบนหน้าจอ ควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 เซนติเมตร และจัดระดับจอภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตา ประมาณ 4-9 นิ้ว และไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป
• พักสายตาทุกๆ ชั่วโมง และควรเปลี่ยนอิริยาบถ ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง เพื่อเป็นการพักสายตาและเพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการใช้คอมพิวเตอร์ ติดต่อกันเป็นเวลานาน

ดังนั้นชาวสำนักหอสมุดที่ใช้อุปกรณ์ไอทีเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะใช้ในการทำงาน การพักผ่อน หรือคุยกับเพื่อน ก็ควรดูแลสุขภาพ และระวังในการใช้อุปกรณ์ไอทีให้มากขึ้น การถนอมสายตามีวิธีการง่ายๆ ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะ

รายการอ้างอิง:
คนทำงานติดหน้าจอ.  สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558, จาก http://www.greenshopcafe.com/mobi/greennewss.php?id=962