All posts by นางวันเพ็ญ ตุ้มเขียว

ประวัติและพัฒนาการบริการ Book Delivery มธ. ปี 2529-2561

BD

 

บริการ Book Delivery  เป็นบริการยืมระหว่างห้องสมุดภายใน มธ. ที่อำนวยความสะดวกในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยส่งคำขอยืมไปที่ห้องสมุดที่ศูนย์ท่าพระจันทร์ ศูนย์รังสิต  ศูนย์พัทยา ศูนย์ลำปาง และห้องสมุดสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ. / ETDA) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องไปยืมและคืนด้วยตนเอง

 ประวัติความเป็นมาของการให้บริการ Book Delivery มธ.

จากการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ขยายการเรียนการสอนไปที่วิทยาเขตศูนย์รังสิต ปี 2529 เพื่อเป็นสถานที่สำหรับการเรียนการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   และได้กำหนดรูปแบบการเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่1 เป็นสหวิทยาการนั้นคณาจารย์และนักศึกษาจึงต้องใช้ทรัพยากรสารสนเทศหลากหลายสาขาวิชา   ซึ่งในขณะนั้นศูนย์รังสิตมีห้องสมุดเปิดบริการเพียง  2  แห่ง  คือ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และห้องสมุดสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา  ดังนั้นสำนักหอสมุดในฐานะหน่วยงานที่ต้องสนับสนุนการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยจึงได้จัดบริการรับคืนหนังสือระหว่างห้องสมุดที่ท่าพระจันทร์กับศูนย์รังสิต    ต่อมาได้ขยายบริการเป็นการยืมระหว่างห้องสมุดด้วย   เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้ทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดที่ท่าพระจันทร์และศูนย์รังสิตได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น   โดยกำหนดให้ผู้ใช้กรอกแบบฟอร์มการยืมระหว่างห้องสมุดภายใน และกำหนดวันที่ผู้ใช้มารับทรัพยากรสารสนเทศได้ในวันอังคารและวันพฤหัสบดี     ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการจะใช้โทรศัพท์ในการติดต่อระหว่างกัน   และใช้แบบฟอร์มส่งตามให้ภายหลัง

Continue reading ประวัติและพัฒนาการบริการ Book Delivery มธ. ปี 2529-2561

ความทรง เดือนตุลาคม ปี 2554

เมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2554 ทุกคนคงจำได้ดี ประเทศไทยเกิดเหตุอุทกภัยหนักเกือบทั่วประเทศ ประชาชนเดือนร้อนไปทั่ว รวมถึงอาคารสถานที่ของราชการ และสถานการศึกษา เช่น ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต แรกเริ่มเป็นสถานที่พักฟื้นของผู้ประสบภัย แต่ต่อมาต้านน้ำไม่ได้ ทำให้ท่วมทั่วทุกพื้นที่ในมหาวิทยาลัย รวมถึงหอสมุดป๋วย อึ้งภากรณ์ ด้วย ซึ่งเป็นห้องสมุดที่มีหนังสือมากมาย และหนังสือส่วนใหญ่ให้บริการอยู่ชั้น 1 ของห้องสมุด จึงจำเป็นจะต้องเคลื่อนย้ายหนังสือจำนวนมาก ซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะท่วมสูงนัก แต่เพื่อไม่เป็นการประมาท และอธิการบดี ได้มีดำริ ให้เก็บหนังสือขึ้นให้หมด เพียงลำพังบุคลากรห้องสมุดคงไม่มีความสามารถเก็บหนังสือได้ จึงได้ประกาศหาอาสาสมัคร และก็ได้น้องๆ นักศึกษาที่มีน้ำใจมาช่วยเป็นมดงาน ในการขนย้ายหนังสือในครั้งนี้จนแล้วเสร็จ รวมถึงมีการกั้นกระสอบทรายด้านทางเข้าและประตูทุกแห่งอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของนักศึกษาที่มีจิตอาสาในการช่วยเหลือสังคมในเหตุการณ์ครั้งนี้

w10 w9 w1 w2 w3 w4 w5 w6 w7 w8w12w11

สุดท้ายน้ำก็ท่วมจริงๆ ในเดือนตุลาคม 2554 น้ำได้ทะลักเข้าสู่มหาวิทยาลัย ซึ่งมีการทำคันกั้นน้ำไว้ แต่บางส่วนได้พังลง น้ำท่วมสูงมาก สร้างความเสียหายมากมาย แต่อย่างน้อยของมีค่าอย่างหนังสือก็สามารถรอดพ้นมาได้ ถึงแม้จะมีบางส่วนอย่างวารสารเก่าที่ไม่สามารถเก็บได้ทัน แต่ก็ส่วนน้อย ความทรงจำนี้ไม่มีวันลืมเลือนเพราะเป็นเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศในรอบหลายสิบปีที่มีมา

w16   w13 w14 w15puey8puey6puey5puey01puey9

เหตุการณ์นี้สร้างความประทับใจในความมีน้ำใจของคนไทยจิตอาสาเกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังได้รับ ความเดือดร้อนมากหลายพื้นที่ ความทุกข์ยากครั้งนี้ทำให้เห็นความรักสามัคคีของคนไทย ที่ว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกัน และเราก็ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยคนหนึ่ง

พิธีกรไม่ยากอย่างที่คิด (ตอนที่ 2)

เมื่อถึงวันปฏิบัติหน้าที่พิธีกร จะตื่นเต้นที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ พิธีกรที่ดีจะต้องไปก่อนงานเริ่มอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของสถานที่ เช่น ตรวจสอบโพเดียมว่าสูงพอดีหรือไม่ ไมโครโฟนเวลาพูดแล้วเสียงดังไปหรือเบาไปตรวจสอบระยะให้พอดี ประสานงานกับผู้ควบคุมเสียงด้านเทคนิค ไฟแสงสว่างถ้ามีข้อขัดข้องจะได้เรียกแก้ไขได้ทันที และประสานงานกับฝ่ายเทคโนโลยีที่จะต้องใช้ประกอบการบรรยาย เช่น คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต มอนิเตอร์ เป็นต้น เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมาดูความพร้อมของตัวเอง การขึ้นพูดบนเวที หรือยืนที่โพเดียมในบทบาทหน้าที่พิธีกรจะต้องใช้ทักษะการพูด และการเตรียมพร้อมทุกครั้งต้องเตรียมสคริปต์ เนื้อหา การวางบุคลิก เสื้อผ้า หน้า ผม ให้เหมาะสมกับวาระ โอกาส  เช่น งานประชุมวิชาการต้องใส่เสื้อผ้าที่เรียบร้อยเป็นทางการ งานพบปะสังสรรค์แต่งตัวตามสไตร์ของงาน งานแต่งงานเป็นไปตามตรีมของงานนั้นๆ เป็นต้น

mc3

Continue reading พิธีกรไม่ยากอย่างที่คิด (ตอนที่ 2)

พูดอย่างไรชนะใจคนฟัง

จากที่ดิฉันได้เขียนบทความเรื่องพิธีกรไม่อยากอย่างที่คิด นั้น ดิฉันมีหนังสือแนะนำให้อ่านประกอบอีก 1 เล่ม เรื่องพูดอย่างไรชนะใจคนฟัง ของ รศ.นงลักษณ์ สุทธิวัฒนพันธ์ ซึ่งมีอยู่เล่มเดียวในห้องสมุด เลขเรียกหนังสือ PN 4129.9 น24 หนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงเทคนิคการสื่อสารโดยการพูดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการเจรจาต่อรอง การพูดหาเสียง การพูดโทรศัพท์ การอภิปราย และการพูดให้ประทับใจเจ้านายเป็นต้น การพูดต่างๆ พูดอย่างไรจึงจะประทับใจคนฟัง เนื้อหาสำคัญมีดังนี้ Continue reading พูดอย่างไรชนะใจคนฟัง

พิธีกรไม่ยากอย่างที่คิด ( ตอนที่ 1 )

ในชีวิตการทำงานดิฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ปฏิบัติหน้าที่พิธีกรบนเวทีในการประชุมวิชาการของสำนักหอสมุด เพราะในตำแหน่งหน้าที่ดิฉันเป็นแค่เจ้าหน้าที่ห้องสมุดคนหนึ่งเท่านั้น แต่ได้รับเลือกจากผู้บริหารให้มาทำหน้าที่นี้ อาจจะเป็นเพราะเห็นว่าดิฉันมีความสามารถ หรือไม่มีใครรับหน้าที่นี้กันหนอ เพราะดูจากความสามารถของบุคลากรของสำนักหอสมุดจะเห็นว่ามีหลายคนที่มีความสามารถที่จะทำได้เช่นกัน ส่วนมากจะคิดว่าการเป็นพิธีกรนั้นยาก ตนทำไม่ได้หรอกทั้งที่ยังไม่ได้ลองทำ หรือพอทำแล้วผิดพลาดก็ถอยซะแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้และฝึกฝน
ดิฉันจะเล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันในการเป็นพิธีกรของดิฉัน นับตั้งแต่ ได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรงานประชุมวิชาการประจำปีของสำนักหอสมุด ในปี 2549 ถ้าจำไม่ผิดนะเพราะเป็นการจัดประชุมวิชาการครั้งแรกของสำนักหอสมุดเลยและดิฉันก็เป็นพิธีกรมาตลอดทุกๆ ปี ในปีแรกนั้นรู้สึกตื่นเต้นระคนกับความกลัวว่าจะทำไม่ได้ดี แต่ก็พยายามที่จะหาความรู้เพิ่มเติมว่าการเป็นพิธีกรนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง จึงได้หาหนังสือในห้องสมุดอ่านก่อนขั้นแรกได้หนังสือชื่อเรื่อง คู่มือสู่อาชีพพิธีกร / สนฉัตร พัวพิมล. เลขเรียกหนังสือ PN1590.พ6 ส32 และเรื่อง เทคนิคการเป็นพิธีกรที่ดี / มัลลิกา คณานุรักษ์. เลขเรียกหนังสือ PN1590.พ6 ม64 จึงได้รู้ว่าการเป็นพิธีกรนั้นจะต้องเริ่มต้นด้วยบุคลิกภาพความมั่นใจเป็นสำคัญ การพูดผิดพูดถูกเป็นเรื่องปกติที่จะผิดกันได้เมื่อผิดแล้วอย่าประหม่าให้ขออภัยแล้วดำเนินการต่อไป Continue reading พิธีกรไม่ยากอย่างที่คิด ( ตอนที่ 1 )

พลขับลิฟต์

อาคารศูนย์การเรียนรู้กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและมีการเปิดให้บริการโดย มีการเปิดอาคารอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 มกราคม 2558 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิด สำนักหอสมุดได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ ทุกคนมีการเตรียมงานกันอย่างแข็งขัน มีการประชุมตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ในการดำเนินงานการรับเสด็จและในครั้งนี้ ดิฉันได้รับหน้าที่เป็นพลขับลิฟต์ถวายสมเด็จพระเทพฯเพื่อพระราชดำเนินขึ้นไปยังชั้น 2 ของอาคาร

penlib

หน้าที่พลขับลิฟต์ทำอย่างไรหนอ ดิฉันครุ่นคิดอยู่จนนอนไม่หลับเพราะตื่นเต้นที่จะได้ถวายงานใกล้ชิดพระองค์ท่านแม้จะเป็นเพียงพลขับลิฟต์ ซึ่งใช้เวลาไม่นานมากนักจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความผิดพลาด จึงได้มีการประสานงานกับฝ่ายช่างประจำอาคารให้สอนวิธีการใช้ลิฟต์อย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดเมื่อทราบถึงวิธีการล็อคลิฟต์ ระหว่างรอรับเสด็จแล้ว ก็ต้องซ้อมเพื่อให้มีความชำนาญจะได้ไม่ประหม่ามากนัก เมื่อปฏิบัติงานจริง แต่ก็ยังมีความกังวลว่าจะต้องยืนตรงไหน ทำอย่างไรบ้างเมื่อพระองค์มาถึงลิฟต์เล่นเอานอนไม่หลับซะหลายคืนเลยทีเดียว

วันที่รอคอยมาถึง 12 มกราคม 2558 จัดเตรียมแต่งตัวสวยงามด้วยชุดข้าราชการปกติขาว ซึ่งได้ใส่ชุดนี้แบบเต็มยศเป็นครั้งแรก แอบภูมิใจนิดๆ ว่าเราก็เท่เหมือนกันแฮะ ตอนเช้าก็แอบไปซ้อมที่ลิฟต์อีกครั้ง และในตอนสายๆ เจ้าหน้าที่ทางสำนักพระราชวังเข้ามาเพื่อดูความเรียบร้อยจึงได้สอบถามว่าพลขับลิฟต์ควรทำอย่างไรบ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังก็ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี และกล่าวว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระทัยดีไม่ต้องกลัว ดิฉันยืนเฝ้าหน้าลิฟต์ จนถึงเวลาที่พระองค์เสด็จมาถึง และพระราชดำเนินเข้าลิฟต์ที่ดิฉันได้เปิดรอไว้อยู่แล้ว ดิฉันยืนอยู่ชิดประตูลิฟต์ โค้งคำนับพระองค์ และผู้ติดตามจนเดินเข้ามาจนครบทุกคนจึงทำการปิดลิฟต์ และเมื่อลิฟต์หยุดที่ชั้น 2 กดเปิดลิฟต์ โค้งคำนับอีกครั้ง พระองค์ทรงพระราชดำเนินออกจากลิฟต์พร้อมผู้ติดตาม เป็นอันเสร็จหน้าที่ในรอบนี้ ดิฉันออกไปยืนอยู่หน้าลิฟต์ เพื่อรอส่งเสด็จเมื่อพิธีการเสร็จสิ้น
pen1

หลังจากพิธีการเปิดอาคารเสร็จสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระราชดำเนินทอดพระเนตร นิทรรศการที่สำนักหอสมุดจัดขึ้นพระองค์ทรงสนพระทัยเป็นอย่างมาก และได้มีปฏิสันถารกับอธิการบดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการทุกอย่างพระองค์เสด็จพระราชดำเนินมายังลิฟต์เพื่อลงไปยังชั้น 1 ดิฉันเปิดลิฟต์รออยู่ก่อนแล้ว และในขาลงนี้มีผู้ติดตามจำนวนมากเนื่องจากพระองค์ยังมีปฏิสันถารกับอธิการบดีอย่างต่อเนื่องยังไม่เสร็จจึงเข้าลิฟต์ลงมาพร้อมกัน  องค์รักษ์ประจำพระองค์เข้าลิฟต์มาเป็นคนสุดท้ายและยืนจนติดประตูเพราะมีผู้ติดตามมากกว่าขาขึ้น เมื่อดิฉันกดปิดประตูลิฟต์ ทำให้ไปโดนรองเท้าขององค์รักษ์ประตูลิฟท์จึงเด้งเปิดออกไม่ยอมปิด องค์รักษ์จึงถอยหลังให้พ้นประตูลิฟต์จึงปิดลิฟต์ได้ เหตุการณ์นี้แม้ไม่ใช่ความผิดของพลขับลิฟต์มือใหม่อย่างดิฉัน แต่ก็ทำให้หน้าร้อนผ่าวไปเหมือนกัน เมื่อลิฟต์มาถึงชั้น 1 ดิฉันกดล็อคลิฟต์เพื่อให้พระองค์และผู้ติดตามออกจากลิฟต์ เป็นอันเสร็จหน้าที่ของดิฉันในการปฏิบัติหน้าที่รับเสด็จในครั้งนี้

ความประทับใจที่ได้ใกล้ชิดสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระองค์ท่านจะทรงแย้มพระสรวลอยู่ตลอด อยู่ใกล้พระองค์แล้วรู้สึกถึงความมีพระเมตตาของพระองค์ต่อพสกนิกร ทำให้เราปฏิบัติงานได้อย่างไม่เครียดทำให้รู้สึกรักพระองค์รักพระองค์มากยิ่งขึ้น สมเด็จพระเทพฯ ของปวงชน ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ

ปั่นจั่กจั่กกันดีกว่า

การออกกำลังกายด้วยจักรยานกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งทีหันมาออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 โดยการชักชวนของเพื่อน และก็ติดใจปั่นมาโดยตลอด ทิ้งรถจักรยานยนต์ที่เคยใช้ขับมาทำงาน หันมาใช้จักรยานแทนทำให้ประหยัดการใช้พลังงานและไร้มลพิษ ยังได้ร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย

pen2
การปั่นจักรยานนอกจากได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้เพื่อนๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย หลากหลายอาชีพและวัย ดิฉันเคยปั่นจักรยานจากนครปฐมไปจังหวัดสุพรรณบุรีรวมระยะทาง 190 กว่ากิโลเมตร ไปกลับภายในวันเดียว ซึ่งเป็นทริปแรกที่ปั่นได้ไกลและยังไม่เคยปั่นไกลๆอีกเลย นอกจากงานแข่งวัดใจต่างๆ ประมาณ 50-60 กิโลเมตร หรืองานคาร์ฟรีเดย์ ประมาณ 30-40 กิโลเมตร เท่านั้น ดิฉันเคยไปช่วยงานกุศลในโครงการของการปั่นจักรยานหลายงานด้วยกัน เช่น งานคาร์ฟรีเดย์ของจังหวัดนครปฐมไปติดต่อกัน 3 ปี และงานปั่นแข่งวัดใจการกุศลซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานเกือบ 2 พันคน ดิฉันได้ไปช่วยเป็นพิธีกร และช่วยในเรื่องของการลงทะเบียนผู้ร่วมงาน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีในเรื่องของการวางแผนงาน เพราะในงานแข่งนั้นจะต้องมีการลงทะเบียนรับเสื้อ จ่ายเงิน รวมทั้งแยกรุ่นการแข่งขันอีกด้วยซึ่งถ้าไม่วางแผนงานให้ดีจะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือล่าช้าในการลงทะเบียนร่วมงานได้ ทำให้ได้ฝึกฝนการทำงานเป็นทีมเป็นอย่างดี

pen3 pen4 pen6 pen8 pen9

ขอชวนเชิญทุกท่านหันมาออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานกันเยอะๆ นะคะ เพราะจักรยานให้อะไรที่มากกว่าที่คุณคิด นอกจากได้ช่วยลดโลกร้อนประหยัดพลังงานแล้ว ยังได้สุขภาพที่แข็งแรง ได้เพื่อนใหม่ๆ มิตรภาพที่ดีหาซื้อไม่ได้ และสิ่งสุดท้ายการท่องเที่ยวด้วยจักรยานนั้นจะมีความสนุกตื่นเต้นแตกต่างจากการขับรถยนต์อย่างเห็นได้ชัดไม่เชื่อมาลองดูกันนะคะ********* ขี่จักรยาน ดีกว่าเดิน เพลินกว่าวิ่ง ********

pen7