Category Archives: สุขภาพ

ปวดหลังล่าง

อาการที่เกิดขึ้นได้กับคนในทุกช่วงวัย พบได้บ่อยในผู้ใหญ่วัยกลางคนขึ้นไป และเกิดได้จากหลายสาเหตุ ควรสังเกตตัวเองหากมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งมี Tip ป้องกันปวดหลังมาฝากค่ะ

1. ควบคุมน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ไม่อ้วน
2. หลีกเลี่ยงการยกของที่มีน้ำหนักมากเกินไป
3. หลีกเลี่ยงท่าทางที่เสี่ยงทำให้กระดูกและหมอนรองกระดูกบาดเจ็บ
4. เวลายกของจากพื้นควรใช้วิธีย่อเข่าโดยให้ตัวอยู่ชิดกับของมากที่สุด ขณะยกของให้ออกแรงที่ขามากกว่าใช้หลังยก
5. ไม่อยู่ท่าใดท่าหนึ่งนานๆ เช่น นั่งนานๆ หรือ ก้มตัวนานๆ
6. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณลำตัวแข็งแรงและยืดหยุ่นดี
7. ยืดเหยียดร่างกายหลังตื่นนอนตอนเช้าเพื่อยืดหยุ่นข้อต่อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อหลัง ช่วยให้ไม่บาดเจ็บง่าย

ที่มา : healthtoday no.170 Jane 2015

หลบแดด เลี่ยงมะเร็ง

ถ้าถูกแสงแดดแผดเผามากๆ รังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดจะทำให้เกิดความเสียหายของเซลล์ผิวหนัง เป็นผลให้เกิดมะเร็งได้ เราจึงควรรู้วิธีป้องกัน เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงได้ทัน หากเป็นกรณีที่มีกลุ่มเสี่ยงค่ะ

การป้องกัน
1. หลีกเลี่ยงแสงแดดตอนกลางวัน เพราะเป็นแสงที่แรงที่สุด แม้ว่าจะเป็นในฤดูหนาวหรือในขณะที่มีเมฆครึ้ม
2. ใช้ยาทากันแดดตลอดปี ควรใช้ครีมกันแดดที่มีความสามารถในการกรองแสงแดดมากขนาดเบอร์ SPF15 จะดีมาก
3. ใช้เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่กันแดดได้ ควรเป็นสีเข้ม ไม่ใช่สีขาว ควรสวมหมวกปีกกว้างป้องกันใบหน้าและลำคอ อย่าลืมสวมแว่นกันแดดชนิดที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB
4. ไม่ควรเห่อตามฝรั่งในการอบตัวโดยใช้ตะเกียงไฟฟ้าให้ผิวคล้ำ เพราะไม่ดีต่อผิวหนัง

ที่มา : healthtoday no.165 January 2015

ถังเก็บน้ำ สำคัญอย่างไร

น้ำมีความสำคัญมาก เพราะถูกนำมาใช้ในการอุปโภคและบริโภค ในชีวิตประจำวัน เราควรทราบการเลือกถังเก็บน้ำที่มีคุณภาพ เพราะหากเราใช้น้ำที่มีสารพิษ สารตะกั่ว สารปรอท และเชื้อโรคปนเปื้อนจากถังเก็บน้ำมา จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นเรามีวิธีเลือกถังเก็บน้ำมาฝากกัน ดังนี้ค่ะ

1. ผลิตจากวัสดุพอลิเมอร์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มอก.
2. ผลิตจากวัสดุซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
3. ใช้ถังเก็บน้ำที่คุณสมบัติทึบแสง
4. เลือกถังเก็บน้ำที่มีส่วนผสมป้องกันการเสื่อมสภาพจากการโดนแสงแดด

การใช้ถังเก็บน้ำที่เสื่อมสภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน มอก. นั้นอาจจะไม่ได่เห็นผลทันที แต่จะค่อยๆสะสมจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

ที่มา : healthtoday no.173 September 2015

สมุนไพรน่าทึ่ง

สวัสดีค่ะ มาอีกแล้วนะคะ สมุนไพรไทยตอนแรกดิฉัน  นำเสนอเรื่องขมิ้นชันไปแล้ว และขอนำเสนอ การดื่มน้ำใบย่านาง ดิฉันจะเล่าถึงการดื่มน้ำใบย่านาง ซึ่งตัวดิฉันเองดื่มเป็นประจำทุกวัน ที่ต้องดื่มสมุนไพรตัวนี้ เนื่องจากดิฉันเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ท้องอืด กรดไหลย้อน และท้องผูก ระบบขับถ่ายมีปัญหา และจะทานควบคู่กับยาที่แพทย์สั่งให้ทาน
และแพทย์ก็นัดตรวจปกติ ทานอาหารรสจัดไม่ได้เลยเป็นเวลานาน และหลังจากนั้นอาการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆๆ
ดิฉันจะปั่นสด ๆ แล้วแช่ในตู้เย็นไว้ ปั่นแต่ละครั้งดิฉันจะต้องดื่มให้หมดภายใน 5 วัน ถ้าไม่หมดก็ทิ้งเลย จะดื่มทุกวันตอน ตื่นนอนประมาณครึ่งแล้ว หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำตามประมาณ 2 แก้ว และหลังจากนั้นก็จะเข้าห้องน้ำตามปกติ จะเล่าการปั่นใบย่านาง ตามวิธีของดิฉันเองนะคะ

วิธีการปั่นใบย่านางนะคะ
1. น้ำใบย่านางมาหั่นเล็ก ๆ
2. นำไปปั่น ใส่น้ำให้ท่วมใบย่านางที่อยู่ในเครื่องปั่น
3. เสร็จแล้ว ใช้ที่กรองแยกน้ำกับกากออกจากกัน
4. เทน้ำใบย่านางที่ปั่นแล้วใส่ขวดเก็บในตู้เย็น

ขอเชิญชวนมาดื่มน้ำสมุนไพรน้ำใบย่านางกันนะคะ อาการโรคที่กล่าวมาข้างต้นก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ขณะนี้ดิฉันสามารถทานอาหารที่รสจัดได้แล้ว แต่ก็ต้องระวังตัวเองด้วย เพราะโรคนี้ไม่หายขาด ถ้าเราทานเผ็ดเมื่อไหร่ อาการก็จะกลับมาเป็นอีก ประโยชน์ของการดื่มน้ำใบย่านางมีประโยชน์มากมาย ขออนุญาต    ยกบทความของผู้อื่นมาประกอบนะคะhttp://frynn.com/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87/

ขอจบเพียงแค่นี้นะคะ ถ้ามีดิฉันมีเรื่องที่เกี่ยวกับสมุนไพร จะนำมาเสนออีกนะคะ บทความของดิฉันอาจจะเป็น ประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ

เลือกใยอาหาร ให้ถูกประเภท

ใยอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น สามารถลดระดับไขมันในเลือดได้ มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ ละลายน้ำ และ ไม่ละลายน้ำ และถ้าเรากินผิดประเภทจะทำให้มีผล เช่น กินแล้วปวดท้อง, ท้องมวนมากขึ้น ดังนั้น เราควรมารู้วิธีกินใยอาหารที่ถูกต้องกันค่ะ

1. ถ้าท้องเสีย ถ่ายเหลว หรือท้องเดิน ควรหลีกเลี่ยงสารกากใยประเภทไม่ละลายน้ำ เช่น  ข้าวสาลีไม่ขัดขาว รำข้าว ผัก บรอกโคลี และมะเขือเทศ เพราะทำให้ถ่ายท้องมากขึ้น
2. ถ้าท้องผูก ควรหลีกเลี่ยงสารกากใยประเภทละลายน้ำ เช่น ข้าวโอ๊ต ถั่วทั้งหลาย แอปเปิล สตรอว์เบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่ มีผลทำให้ลำไส้บีบตัวช้าลง
3. ถ้าท้องอืด เนื่องจากมีก๊าซในท้องมาก ควรหลีกเลี่ยงใยอาหารที่มีฟรักแทน และ กาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ เช่น หอม กระเทียม แตงโม เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วพิสตาซิโอ

การรับประทานใยอาหารที่ถูกวิธี จะส่งผลดีต่อสุขภาพของเรานะคะ

ที่มา : healthtoday no.166 february 2015

เบียร์…ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพนะครับ

         เบียร์…ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพนะ (Lisa)

beer_toast-1024x805
     

      เบียร์มีสารต่าง ๆ มากกว่า 1,000 ชนิด มีวิตามินและเกลือแร่ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อแข็งแรง

สำหรับคอเบียร์คงหูผึ่ง เมื่อมีคนบอกว่าเบียร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างไรก็ควรดื่มพอประมาณ แล้วเหตุใดฝรั่งจึงบอกว่าเบียร์ดีมีประโยชน์ เหตุผลก็คือ เบียร์มีสารต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ เช่น สังกะสี แมกนีเซียม เหล็ก และแร่ธาตุจำเป็น ซึ่งช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อ แข็งแรง เหตุผลดีๆ ยังมีอีกมากมาย เช่น

1.ป้องกันโรคหัวใจ

จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเบียร์ 40 – 60% แต่ควรดื่มไม่เกินครึ่งลิตรต่อวัน

 2.ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

สารที่มีประโยชน์ในเบียร์สามารถช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันจึงช่วยป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต

3. ช่วยลดความดันโลหิต

แพทย์ชาวฮอลแลนด์และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การดื่มเบียร์ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

4. ป้องกันเบาหวาน

ผู้ที่ดื่มเบียร์มีจำนวนน้อยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เหตุผลก็คือ เบียร์ทำให้ร่างกายสามารถปรับฮอร์โมนอินซูลิให้ความทรงจำดี นักดื่มเบียร์จึงไม่ค่อยเป็นโรคอัลไซเมอร์

5. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง

เบียร์ให้ผลดีต่อกระดูก สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ แต่ได้ผลเฉพาะกับหนุ่มสาวเท่านั้น

 6.ช่วยให้อายุยืน

จากการศึกษามากกว่า 50 สำนัก พบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์วันละ 1 – 2 แก้ว มักจะมีอายุที่ยืนยาว เนื่องจากเบียร์มีสารปกป้องหัวใจ

7. ป้องกันท้องร่วง

โมเลกุลในเบียร์มีส่วนประกอบเหมือนกันกับกรดนมและน้ำส้มสายชู สารที่ว่านี้ขัดขวางเชื้อโรคในลำไส้ที่เป็นสาเหตุของท้องร่วงไม่ให้แพร่เชื้อจนท้องเสีย

 8.ต้านความเครียด

นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Montreal ค้นพบว่า คนทำงานที่ได้ดื่มเบียร์บ้างเป็นครั้งคราวมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเบียร์

 9.ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต

นักวิชาการจากเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ค้นพบว่า การดื่มเบียร์วันละหนึ่งขวดก็จะได้รับแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ถึง 40%

10. ป้องกันโรคนอนไม่หลับ

สารจากดอก Hops ใน เบียร์เปรียบเสมือนยานอนหลับจากธรรมชาติ ช่วยให้ประสาทผ่อนคลาย ดังนั้น การดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในตอนเย็นจึงเหมือนกับการกินยานอนหลับ

 11.ช่วยต้านมะเร็ง

เบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันมะเร็ง โดยการดักจับอนุมูลอิสระตัวร้ายออกจากร่างกาย สารโพลีฟีนอยด์หลักก็คือ Xanthohumol ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง

 12.ช่วยให้ผิวสวย

ในเบียร์มีวิตามินสูง เช่น Pantothenic Acid วิตามินบี 3 และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ ช่วยสร้างคอลลาเจนและเม็ดสี ผิวจึงเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม

ว้าวๆ…การดื่มเบียร์วันล่ะแก้ว ก็มีประโยชน์นะครับสงสัยต้องขอตัวไปหาเบียร์สักแก้วก่อนนะครับ

D6840142-74

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นิตรยสาร Lisa weekly

ยาปฏิชีวนะ และ ยาแก้อักเสบ มันคนละชนิดกัน

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ แบบนี้ควรดูแลสุขภาพกันให้ดีดีนะคะ แต่ถ้าใครไม่สบายแล้วก็ควรไปพบแพทย์หรือถ้าหากจะซื้อยากินเองหรือกินยาสามัญประจำบ้านก็ควรต้องศึกษากันหน่อยนะคะ เพราะยาบางชนิดต้องกินตามที่แพทย์สั่งและต้องกินยาให้หมดไม่ว่าอาการของไข้จะหายแล้วก็ตามอย่างน้อยก็ก็ป้องกันการดื้อยาคะ
ยาที่คนส่วนใหญ่เข้าใจยา 2 ชนิดนี้ผิด คือ ยาปฏิชีวนะ และยาแก้อักเสบ เป็นผลให้ใช้ผิดประเภทนะคะเรามาทำความรู้จักกับยา 2 ชนิดนี้กันดีกว่าค่ะ
ยาแก้อักเสบ (ยาต้านการอักเสบ Anti-inflammatory drugs) เป็นยาที่มีฤทธิ์ลดไข้ แก้ปวด ลดบวมอักเสบ โดยไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และส่วนใหญ่เวลาเจ็บคอ จะเกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งต้องได้รับยากลุ่มนี้
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics)   เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ใช้รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่มีฤทธิ์แก้อักเสบโดยตรง เช่น เพนนิซิลลิน อะม็อกซีซิลลิน (อะม็อกซีซิลลิน มักเข้าใจผิดเรียกว่า ยาแก้อักเสบ)
หมายความว่า เมื่อเป็นไข้ เจ็บคอ ไม่จำเป็นต้องกินยาปฏิชีวนะ

เสมอไป ต้องดูว่าเกิดจากเชื้อตัวไหน หากกินยาไม่ถูกประเภทนอกจากไม่หายแล้ว อาจมีผลเสียในระยะยาว เช่น ดื้อยา แพ้ยาได้

ที่มา : นิตยาสารเพื่อนแพน Breaking News Vol.32 No.204 Issue 6/2558

โรคบ้านหมุน

โรคบ้านหมุน ใครเคยเป็นบ้าง สงสัยกันหรือไม่ว่ามันเกิดจากสาเหตุใดตื่นลืมตาขึ้นมาทำไมถึงมีอาการเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราหมุนไปหมด คือลืมตาไม่ได้เลย หากขืนตัวลุกขึ้นก็มีอาการหัวทิ่มหัวตำ ถึงกับล้มได้ มีทางเดียวคือต้องนอนเฉย ๆ เท่าที่ฟังหมอเล่าถึงอาการก็มีด้วยกันหลายสาเหตุ ส่วนมากจะเป็นโรคของหู  โรคของทางเดินประสาทและสมอง  สาเหตุอื่นๆ เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (autoimmune disease) โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยผิดปกติ (hypothyroidism) โรคเลือด (มะเร็งเม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือดสูงผิดปกติ ซีด เลือดออกง่ายผิดปกติ) โรคหลอดเลือดแข็งและตีบจากโรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคกระดูกคอเสื่อม โรคไต ระดับยูริกในเลือดสูง โรคความดันโลหิตต่ำ โรคภูมิแพ้   เมื่อรู้แล้วว่ากลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นมีอะไรบ้าง ก็ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพและหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิด แต่ถ้าเป็นแล้วก็ควรหาทางดูแลรักษาเพื่อสุขภาพของตัวเอง  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี้

รายการอ้างอิง  http://www.healthtoday.net/thailand/disease/diisease_136.html

 

 

ผลไม้ลดความอ้วน

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ช่วยลดความอ้วนให้พลังงานที่ต่ำ                                                             จุดเด่นของแอปเปิ้ลแบ่งตามสีมีดังนี้                                                                 1.แอปเปิ้ลแดงมีสารแอนติ้ออกซิแคยท์ให้พลังงานสูงมีรสหวาน                         2.แอปเปิ้ลเขียวมีรสอมเปรี้ยวช่วยลดน้ำหนักลดความอ้วนมีปริมาณน้ำตาลน้อย                                                                                                                                          3.แอปเปิ้ลเหลืองต่างจากสีอื่นเพราะมีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลอดเลือดหัวใจ                                                                                 ประโยชน์ของแอปเปิ้ลยังมีอีกมาก

ประโยชน์ของต้นมะแว้ง

ต้นมะแว้งจะมีลำต้นมีหนามจะมีลูกสีเขียวและเวลาสุกจะมีสีแดงยอดออน่มะแว้งสามารถนำมารับประทานได้ลูกก็รับประทาได้ลูกมะแว้งที่สุกแล้วสามารถนำมากวดยาเด็กได้เพื่อแก้ไอจะมีรถชาติขมนิดหน่อย                                       สรรรพคุณของมะแว้ง                                                                                                                  1.บำรุงเลือด                                                                                                                                2.แก้ไอได้ละลายเสมหะ                                                                                                       3.ช่วยแก้กระหายน้ำ(ราก)                                                                                                    4.ช่วยขับลม(ราก)                                                                                                                    5.ช่วยบำรุงน้ำดี(ผล)                                                                                                                        ประโยชน์ของต้นมะแว้งยังมีอีกมากมาย