All posts by นางสาวฐิติมา หิรัญเวชยางกูร
การจัดลำดับความเกี่ยวข้อง (Relevance Ranking) คืออะไร สำคัญไฉน !!!
การสืบค้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศที่ปัจจุบันมีอยู่มากมายมหาศาล สำหรับหอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากเครื่องมือ (Tools) ที่ใช้ในการสืบค้นหลักๆ ที่ทุกวันนี้มี 3 ช่องทางให้เลือกสืบค้นได้ตามความเหมาะ ประกอบด้วย (1) ระบบ EDS (EBSCO Discovery Service) (2) ระบบ Worldshare ILL และ (3) ระบบ OPAC ของระบบห้องสมุดอัตโนมัติ Koha Continue reading การจัดลำดับความเกี่ยวข้อง (Relevance Ranking) คืออะไร สำคัญไฉน !!!
ยกระดับความร่วมมือระหว่างห้องสมุด : TU Library และ SISUL
หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยกระดับเครือข่ายความร่วมมือระหว่างห้องสมุดในระดับนานาชาติ โดยวันที่ 7 มิถุนายน 2561 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เอกรินทร์ ยลระบิล ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ลงนามความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงระหว่างห้องสมุด กับ Mr. Ren ShuHuai ผู้อำนวยการห้องสมุด Shanghai International Studies University
Continue reading ยกระดับความร่วมมือระหว่างห้องสมุด : TU Library และ SISUL
หอสุมดฯ กับระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015 (PART 1)
“การประกันคุณภาพ” เป็นวิธีบริหารจัดการเพื่อเป็นหลักประกันหรือสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการหรือการดำเนินงานจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพตรงตามที่กำหนด หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ยึดหลักคุณภาพในการปฏิบัติงานมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา หอสมุดฯ มีการใช้ระบบคุณภาพต่างๆ อาทิ รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report: SAR) เกณฑ์คุณภาพการศึกษาเพื่อการดำเนินการที่เป็นเลิศ (Education Criteria for Performance Excellence: EdPEx) และปัจจุบัน หอสมุดฯ อยู่ระหว่างการใช้ระบบ ISO 9001:2015 เป็นระบบบริหารคุณภาพขององค์กร โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในต้นปีงบประมาณ 2561 หอสมุดฯ จะต้องได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015 Continue reading หอสุมดฯ กับระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2015 (PART 1)
อะไรดีๆ ที่ Archive.org
เคยได้ยินชื่อเว็บ Archive.org มานานพอสมควรค่ะ ตอนแรกยังคิดว่าเป็นเว็บที่รวบรวม e-book ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่พอวันอาทิตย์ยามบ่ายๆ ขณะส่งลูกเข้านอนเรียบร้อย ทำให้พอจะมีเวลาว่างเข้ามาคลิกดูโน่นดูนี่ในเว็บนี้ แถมยังสมัครเป็นสมาชิกเรียบร้อย ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ในการท่องเว็บนี้ให้ท่านที่ยังไม่เคยลองเข้ามา มีอารมณ์อยากจะเข้ามากันบ้างค่ะ
Archive.org เป็นเว็บที่ก่อตั้งโดยมูลนิธิ Internet Archive ซึ่งเป็นองค์กรณ์ที่ไม่แสวงหาผลกำไร เป้าหมายของการสร้างเว็บไซต์นี้ ถ้าพูดให้สั้นและเข้าใจง่ายก็คือ การเป็นห้องสมุดอินเทอร์เน็ต (Internet Library) ที่เก็บรวบรวมสื่อนานาชนิด ทั้งที่เป็น Text, Video, Audio, Software, Image และWebsite ถ้าใครสนใจ สมัครเป็นสมาชิกดูนะคะ จะได้มีสิทธิในการดาวน์โหลดสื่อต่างๆ ได้ฟรีค่ะ
สิ่งที่เห็นว่าน่าสนใจมากๆ อย่างหนึ่งของเว็บไซต์นี้คือการเป็นเหมือนเครื่องย้อนเวลา (Wayback Machine) ที่เก็บรวบรวมหน้าตาเว็บไซต์ต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าบางเว็บอาจจะสูญสลายไปแล้วก็ตาม ซึ่งข้อมูลและรายละเอียดเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์เพราะจะได้เห็นถึงพัฒนาการต่างๆ วิธีการก็ง่ายๆ ค่ะ เพียงแค่ใส่ชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการค้นหา จากนั้นระบบจะแสดงผลออกมาเป็นช่วงเวลาในรูปแบบของปฏิทิน ซึ่งคุณก็สามารถเลือกช่วงเวลาและวันที่ตามต้องการได้เลย
สำหรับสื่อดิจิทัลที่มีให้บริการดาวน์โหลด บอกได้คำเดียวค่ะว่าเยอะมาก เพราะมีกว่า 3,000 คอลเล็คชั่น และมีหลากหลายภาษาด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ ซึ่งถ้าใครที่เป็นหนอนหนังสือ ชอบหาหนังสือดีๆ อ่านกันแบบไม่ต้องเสียเงิน เว็บไซต์นี้น่าจะเป็นอีกเว็บหนึ่งที่ควรจะอยู่ในดวงใจค่ะ
ล่าสุด Internet Archive ได้ร่วมมือกับ BitTorrent, Inc. นำสื่อมัลติมีเดียเหล่านี้ที่เดิมทีต้องโหลดผ่านทาง HTTP มาแจกบน BitTorrent ด้วย เป้าหมายสำคัญของการแจกสื่อผ่าน Torrent คือการเพิ่มประสิทธิภาพของการดาวน์โหลดไฟล์ให้มากขึ้น รวมไปถึงการขยายกลุ่มเป้าหมายของ Internet Archive ไปยัง “สังคมแห่งการแบ่งปัน” (อ้างอิง https://www.blognone.com/node/34855)
เล่ากันแค่นี้พอหอมปากหอมคอ ท่านที่สนใจสามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชมกันได้นะคะที่ http://archive.org รับรองคุณจะ Love Love เว็บไซต์นี้ค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง WAYBACK MACHINE : INTERNET ARCHIVE จากอดีตถึงปัจจุบันของเว็บไซต์ต่างๆ
รู้สักนิดกับ “การจัดการสิทธิดิจิทัล (Digital Rights Management : DRM)”
การจัดการสิทธิดิจิทัล (Digital Rights Management : DRM) คือ การควบคุมหรือจำกัดการใช้สื่อดิจิทัลบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นการปกป้องคุ้มครองข้อมูลดิจิทัล (Protection of digital content) ให้ปลอดภัยจากการเข้าถึง (access control) หรือทำซ้ำ (copy control) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยี เช่น ใส่ encryption ในไฟล์ข้อมูลที่ต้องการคุ้มครอง และอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลก็ต่อเมื่อระบบได้ตรวจสอบตัวตน (identity) ของผู้ใช้และตรวจสอบสิทธิในการเข้าถึงไฟล์นั้นเสียก่อน (authenticated) การคุ้มครองไฟล์ข้อมูลด้วยวิธีนี้ ค่อนข้างมีความปลอดภัย เนื่องจาก DRM จะติดอยู่กับไฟล์ดิจิทัล ไม่ว่าไฟล์ข้อมูลนั้นจะมีการถ่ายโอนไปที่ใด
ระบบจัดการสิทธิดิจิทัล คือ ระบบการจัดการสิทธิของผู้ใช้ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการคัดลอก หรือการทำสำเนาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ควบคุมและจำกัดสิทธิของผู้ใช้ตามเงื่อนไขที่กำหนด หลักการทำงานของระบบ DRM ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ (1) การสร้างสื่อดิจิทัลที่มีการผนวกสิทธิเข้าไว้ด้วยกัน (2) การควบคุมการเผยแพร่สื่อดิจิทัล (3) การควบคุมการใช้งานสื่อดิจิทัลของผู้ใช้
ปัจจุบันสำนักหอสมุดมีการจัดการสิทธิดิจิทัลกับทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลที่แปลงรูปมาจากทรัพยากรสารสนเทศสิ่งพิมพ์ เช่น วิทยานิพนธ์ ผลงานวิชาการของคณาจารย์ และบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนังสือคำสอนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น โดยเทคนิคที่ใช้มาจากฟังก์ชั่นของโปรแกรม Acrobat Professional คือ
- การใส่ลายน้ำ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงหรือการคัดลอก โดยใส่ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีคำว่า “สำนักหอสมุด”
- การเพิ่มความปลอดภัยให้เอกสาร PDF ด้วยการกำหนด security เพื่อป้องกันการคัดลอก เนื้อหาของทรัพยากร (ใช้ป้องกันความปลอดภัยกับเอกสาร PDF ที่ได้มาด้วยการแปลงไฟล์จากโปรแกรม Microsoft word) และป้องกันการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไฟล์ PDF
ด้วยเทคโนโลยี DRM ที่ใช้ในปัจจุบัน เห็นว่าน่าจะยังไม่เพียงพอต่อการจัดการสิทธิดิจิทัล เนื่องจากสำนักหอสมุดมีทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลเป็นจำนวนมากที่ไม่จำกัดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ ณ ปัจจุบันไม่ทราบว่าผู้เข้ามาใช้บริการเป็นใคร มีสถิติการดาวน์โหลดเข้าใช้งานกี่ครั้ง และ มีการนำดิจิทัลไฟล์ไปทำสำเนา แจกจ่าย หรือใช้เพื่อการพาณิชย์หรือไม่ ดังนั้นเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิอันเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของเจ้าของลิขสิทธิ์ จึงควรมีการพัฒนาระบบจัดการสิทธิดิจิทัลเพื่อสร้างมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยให้ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลของสำนักหอสมุด ยกระดับการให้บริการ และสร้างความเชื่อมั่นให้เจ้าของผลงานต่อไป
อ้างอิง
https://sites.google.com/site/digitizedthailand/drm/principle
http://th.wikipedia.org/wiki/การจัดการสิทธิดิจิทัล
http://banna-tad.human.cmu.ac.th/index.php/bannatad/article/viewFile/16/29
เรื่องเล่าจากสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์สำหรับห้องสมุดละหอจดหมายเหตุ”
สัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์สำหรับห้องสมุดละหอจดหมายเหตุ
วันพุธที่ 17 ธันวาคม 2557 เวลา 09.00 – 17.00 น.
ณ ห้องประชุมอโนมา 1 โรงแรมอโนมา กรุงเทพมหานคร
การสัมมนาในวันนี้นับว่าเป็นประโยชน์ต่อบรรณารักษ์และผู้อยู่ในแวดวงของห้องสมุดและจดหมายเหตุเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมา มักมีการถกเถียง สงสัย หรือไม่แน่ใจในการให้บริการของห้องสมุด ไม่ว่าจะเป็นการสำเนาสิ่งพิมพ์ที่มีในห้องสมุด การจัดทำดิจิทัลไฟล์ หรือแม้กระทั่งการแปลเอกสารเพื่อการปฏิบัติงานในห้องสมุด
จากการบรรยายของวิทยากรแต่ละท่าน สิ่งซึ่งมักถูกอ้างอิงถึงเสมอเมื่อกล่าวถึงการละเมิดลิขสิทธิ์ คือมาตรา 32 วรรค 1 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ที่มา : พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
มาตรา 32 การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้ Continue reading เรื่องเล่าจากสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์สำหรับห้องสมุดละหอจดหมายเหตุ”
เล็กๆ น้อยๆ กับ DOI
บุคลากรที่อยู่ในวงการห้องสมุดหรือศูนย์เอกสารสนเทศต่างๆ คงไม่มีใครไม่รู้จักเลข ISBN หรือ เลข ISSN เพราะเป็นเลขที่อยู่คู่สิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือและวารสารกันมายาวนาน เมื่อก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล เลขอีกชนิดหนึ่งที่ทุกคนควรรู้จักคือเลข DOI หรือเรียกด้วยภาษาทางการคือ ตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) (อังกฤษ: Digital Object Identifier: DOI) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล หรือทรัพยากรสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ หรือเอกสารดิจิทัล ทำหน้าที่เป็นรหัสทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล คล้ายกับเลข ISBN หรือ ISSN แต่มีความแตกต่างที่ DOI มีความซับซ้อนมากกว่า โดยมีเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมโยงไฟล์ทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลจากรหัส DOI ได้ มีการจัดการฐานข้อมูล metadata และการอ้างถึง ซึ่งตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) นั้นเป็นตัวบ่งชี้ถาวรของทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล (Permanent Identifier) หรือ Persistent Identifier โดยรหัสนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานที่ที่ใช้จัดเก็บ (Location) หรือสิทธิการเป็นเจ้าของทรัพยากรสารสนเทศนั้น
สำหรับในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้สมัครสมาชิกเป็นผู้บริหารจัดการตัวระบุวัตถุดิจิทัล (ดีโอไอ) ด้านการวิจัยของประเทศกับ DataCite ซึ่งเป็น Registration Agencies (RA) และได้รับการยอมรับจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ DataCite ให้เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบลำดับที่ 17 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555
หากหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักพิมพ์ หน่วยงานรัฐบาล หรือห้องสมุด ที่ได้จัดทำสิ่งพิมพ์ประเภทงานวิจัย วิทยานิพนธ์ และวารสาร ให้อยู่ในรูปดิจิทัลและให้บริการการเข้าถึงเอกสารฉบับเต็มแบบสาธารณะ เมื่อต้องการขอเลข DOI มีวิธีการง่ายๆ ดังนี้
- เข้าที่เว็บไซต์ http://doi.nrct.go.th/doidc/index.php
- ลงทะเบียน โดยเลือกที่ “สมัครใช้บริการ”
- เลือกประเภทของสิ่งพิมพ์ที่ต้องการจะขอเลข DOI ได้แก่ งานวิจัย/วิทยานิพนธ์ หรือ วารสาร
- กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นคลิก “ลงทะเบียน”
- หลังจากลงทะเบียนแล้ว ให้รอการตอบกลับจาก สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ทางอีเมลที่ได้กรอกไว้ตอนลงทะเบียน
- นำ username/password ที่สมัครไว้มา Login เข้าระบบเพื่อดำเนินการขอเลข DOI ต่อไป
ดิจิทัลคอลเล็คชั่นของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สำนักหอสมุดเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นพร้อมการก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ในปี พ.ศ. 2477 ด้วยระยะเวลาการก่อตั้งที่ยาวนาน ทำให้สำนักหอสมุดได้สั่งสมทรัพยากรสารสนเทศที่มีคุณค่าในด้านเนื้อหาและการจัดพิมพ์เป็นจำนวนมาก
ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของทรัพยากรสารสนเทศ ความต้องการอนุรักษ์ทรัพยากรสารสนเทศให้คงอยู่ได้ด้วยรูปแบบการจัดเก็บและการนำเสนอที่แตกต่างออกไปโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาจัดการ การตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศโดยปราศจากข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ การส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำนักหอสมุดจึงมีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาดิจิทัลคอลเล็คชั่นให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นแหล่งจัดเก็บและให้บริการทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักหอสมุดเริ่มต้นพัฒนาดิจิทัลคอลเล็คชั่นด้วยการแปลงรูปทรัพยากรสิ่งพิมพ์เป็นรูปดิจิทัลในปี พ.ศ. 2544 โดยหนังสือหายากเป็นทรัพยากรสารสนเทศประเภทแรกที่ได้รับการพิจารณานำมาจัดทำ เนื่องจากเป็นสิ่งพิมพ์ที่ทรงคุณค่าด้านเนื้อหาและด้านการพิมพ์ ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาดหรืออาจไม่มีในห้องสมุดอื่นๆ โดยมุ่งเน้นการทำสำเนาทรัพยากรในรูปดิจิทัลเพื่อให้เนื้อหายังคงอยู่ สามารถใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาค้นคว้าได้สืบไป ต่อมาสำนักหอสมุดมีการพัฒนาดิจิทัลคอลเล็คชั่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวทางในการพิจารณาทรัพยากรสารสนเทศประเภทสิ่งพิมพ์เพื่อนำมาแปลงรูปเป็นดิจัล 4 ประเด็นคือ คุณค่าของทรัพยากรสารสนเทศ ลักษณะทางกายภาพ คุณภาพของทรัพยากรสารสนเทศ และเรื่องของลิขสิทธิ์
ปัจจุบันสำนักหอสมุดจัดเก็บดิจิทัลคอลเล็คชั่นในระบบ CONTENTdm ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศที่สามารถรองรับการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลได้หลายรูปแบบ ได้แก่ ไฟล์ในรูปแบบ Microsoft office, .pdf, MP4, Image, Video เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการทำงานที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบสืบค้นแบบบูรณาการ (Integrated search) ที่สำนักหอสมุดจัดหามาใช้งาน ได้แก่ ระบบ One Search ของบริษัท Ebscohost และระบบ WorldCat Local ของ OCLC ซึ่งช่วยให้ข้อมูลที่จัดเก็บในระบบ CONTENTdm สามารถสืบค้นผ่านระบบดังกล่าวได้แบบอัตโนมัติ ทำให้ข้อมูลทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลได้รับการเผยแพร่อย่างรวดเร็ว โดยบุคคลทั่วไปสามารถเข้าใช้บริการดิจิทัลคอลเล็คชั่นของสำนักหอสมุดโดยตรงได้ที่เว็บไซต์ http://beyond.library.tu.ac.th
Continue reading ดิจิทัลคอลเล็คชั่นของสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์